ผู้เขียน หัวข้อ: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน  (อ่าน 9 ครั้ง)

anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 21:41:51 น. »
5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน


อันดับที่ 5 ผีฟ้า
ตามความเชื่อของชาวอีสาน ผีฟ้าก็นั้นก็คือเทวดารูปหนึ่งที่มีอำนาจทุกอย่างบนท้องฟ้า อาจจะให้ดีหรือร้ายแก่มนุษย์ก็ได้ ซึ่งหัวหน้าใหญ่ของผีฟ้าก็คือพญาแถน ผีฟ้าจะให้คุณกับบุคคลที่เชื่อและศรัทธากับผีฟ้า ซึ่งมีดังนี้ มาจากการที่ผีฟ้าเลือกเอง จากการมองเห็นนิมิตร มาจากการที่เป็นหนี้บุญคุณผีฟ้า เช่นช่วยในการทำให้หายป่วย มาจากการสืบทอดบรรพบุรุษ คือ มีการสืบทอดในตระกูล แต่หากผู้ใดที่ทำผิดครูจะถูกสาปให้กลายเป็นปอบ

อันดับที่ 4 ผีเป้า
มีลักษณะคล้ายกับผีปอบ แต่จะเป็นในผู้ชาย ผีเป้าเกิดจากการที่คนๆ นั้นเรียนวิชาอาคม แล้วไม่สามารถที่จะรักษาวิชาอาคมนั้นเอาไว้ได้ มีอีกความเชื่อหนึ่งว่าผีเป้าเกิดจากคนที่ชอบกินของสุกๆ ดิบๆ ด้วยเหตุนี้คนอีสานจึงมักสอนลูกๆ ไม่ให้กินของสุกๆ ดิบๆ เพราะจะกลายเป็นผีเป้า ผีเป้านั้นมักจะไม่สู้คน เมื่อออกหากินก็มักจะพกของมีค่าไว้เสมอ เพราะหากไปเจอคนก็จะถูกจับได้ว่าเป็นผีเป้า จึงต้องพกของมีค่าเหล่านี้เอาไว้ติดสินบนหรือเป็นค่าปิดปาก เมื่อโดนจับได้จะไม่โดนขับไล่เหมือนกับผีปอบ แต่จะโดนรังเกียจแทน เพราะผีเป้านั้นไม่ทำร้ายคน ลักษณะองผีเป้านั้นจะมีแสงอยู่ที่ปลายจมูก แต่พอเมื่อเจอคน แสงนั้นจะดับลงไปทันที ในตอนกลางวันผีเป้าจะเป็นเหมือนนปกิทั่วไป แต่พอตกกลางคืนผีเป้าที่สิงอยู่ในร่างนั้นจะมีอาการหิวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ และจะออกไปหากบกินตามทุ่งนา แต่ถ้าหากบไม่ได้ก็จะไปจับไก่ในเล้าแทน ชาวบ้านจึงมักจะไปดักจับผีเป้าตามทุ่งนาเพื่อหวังะรับเงินสินบนนั่นเอง

อันดับที่ 3 ผีแม่ม่าย
ผีแม่ม่ายจัดอยู่ในผีประเภทบังบด หรือเป็นมนุษย์ในอีกมิติหนึ่ง เมืองที่ผีบังบดอยู่นั้นนิยมเรียกว่าเมืองลับแล ว่ากันว่าเมืองนี้มีแต่แม่ม่าย ทุกคนล้วนแล้วแต่สวยงาม ผีตนนี้จะออกเที่ยวในยามค่ำคืนเพื่อหลอกล่ชายหนุ่มให้ไปเป็นสามีทีละหนึ่งคน โดยผีแม่ม่ายจะหลอกล่อจิตวิญญาณของคนๆ นั้นขณะนอนหลับ เมื่อดวงวิญญาณติดตามผีแม่ม่ายไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เมื่อร่างของเรานั้นไม่มีดวงวิญญาณก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ หรือพูดง่ายๆ ว่าหากดวงวิญญาณของเราถูกผีแม่ม่ายหลอกล่อไปแล้วจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกคือตายนั่นเอง หากครอบครัวใดมีผู้ชายที่ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อผีแม่ม่าย ให้นำหุ่นรูปผู้ชายไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อผีแม่ม่ายจะมาเอาไปเป็นสามี ผีแม่ม่ายจะคิดว่าหุ่นนั้นเป็นชายหนุ่ม และก็จะเอาหุ่นนั้นไปแทน ว่ากันว่าผีแม่ม่ายเป็นม่ายตั้งแต่ยังสาวจึงมีความต้องการทางเพศสูงมาก หากจะให้ได้ผลดีขึ้นให้นำปลัดขิกทาสีแดงตั้งไว้คู่กับหุ่น

อันดับที่ 2 ผีจ้างหนัง
เรื่องผีจ้างหนังเป็นเรื่องเล่าที่เล่ากันว่า เรื่องเกิดเมื่อตอนปีพุทธศักราช 2532 มีคนว่าจ้างให้หนังเร่ไปฉายที่บ้านวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งอำเภอบ้านดุง ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 100 กิโลเมตร โดยค่าจ้างนั้น ที่ตกลงกันอยู่ที่ 4,000 บาท ฉายหนังสามถึงสี่เรื่อง โดยให้ฉายช่วงเวลาสามทุ่มถึงตีสี่ พอถึงตีสี่ต้องเก็บข้าวของให้หมดก่อนที่จะสว่าง ทางหนังเร่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรเพราะเป็นความต้องการของผู้ว่าจ้าง ถึงเวลาเริ่มฉายหนังตอนสามทุ่มก็มีผู้หญิงชุดขาวนั่งอยู่ข้างหนึ่ง และมีผู้ชายชุดดำนั่งอยู่อีกข้างหนึ่ง ไม่ว่าหนังฉายไปแบบไหน คนเหล้านั้นก็เพียงแต่มองดูไปเฉยๆ นิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เมื่อถึงตอนเวลาตีสี่ ก็มีนมาบอกหนังเร่ว่าให้รีบเก็บข้าวของแล้วให้ออกไปทันทีและห้ามหันหลังกลับมาดู ทางฝ่ายหนังเร่ก็รีบเก็บข้าวเก็บของเตรียมกลับบ้าน ในระหว่างนั้นทางฝ่ายหนังเร่ก็สงสัยกันว่า ทำไมจะต้องห้ามหันหลังกลับมาดูด้วย จึงได้ลองหันหลังกลับไป พวกผู้คนที่มาดูกันหลายคนก็ต่างหายไปหมด เหลือเพียงป่าทึบๆ ให้เห็นเท่านั้น

อันดับที่ 1 ผีปอบ
ปอบเป็นผีที่คนไทยรู้จักมากที่สุด ผีปอบนิสัยจะคล้ายๆ กับผีเป้า แต่จะนิสัยแย่กว่ามากๆ และจะสิงอยู่ในตัวผู้หญิงมากกว่า ของกินของผีปอบก็เหมือนกับผีเป้าคือของสุกๆ ดิบๆ ผีปอบจะแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

ประเภทที่ 1 ปอบที่สืบทอดมาเป็นวงศ์ระกูล ซึ่งจะสืบทอดกันทางเลือดและน้ำลาย ชาวอีสานจะชอบเคี้ยวข้าวแล้วป้อนให้ลูกกินที่เรียกกันว่าข้าวย้ำ จึงทำให้เด็กที่กินนั้นติดเชื้อปอบไปโดยปริยาย ปอบที่ติดต่อกันทางสายเลือดนั้นะมีนิสัยดุร้ายไม่มาก หลบๆ ซ่อนๆ ไม่สุงสิงกับใคร

ประเภทที่ 2 ปอบเวทย์ ปอบประเภทนี้เกิดจากผู้ที่มีวิชาอาคมแล้วผิดคำสั่งห้ามของครูอาจารย์ ทำให้กลายเป็นปอบ โดยส่วนมากจะเกิดกับคนที่โลภมากแล้วเก็บค่าครูเกินที่กำหนด เพราะในอดีตคนโบราณะเห็นน้ำใจนั้นดีกว่าเงิน เมื่อเรียกเก็บค่าครูจะเรียกพอประมาณ ไม่ละโมบเรียกเก็บมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ปอบที่ผิดครูจะมีนิสัยดุร้ายมากและเป็นปอบที่มีคนรู้จักกันมากที่สุด

ประเภทที่ 3 ปอบเลี้ยง ปอบประเภทนี้เกิดจากวิชาอาคมของหมอผี ที่อัญเชิญผีห่า ดวงวิญญาณผีมาสิงอยู่ในกรวยดอกไม้หรือหุ่นอาคมที่ทำขึ้น เกิดเป็นปอบที่มีแต่สิ่งชั่วร้ายมารวมเป็นตัวเดียวกัน ส่วนมากปอบประเภทนี้จะถูกนำมาเลี้ยงไว้ใช้งานแต่ต้องมีของเซ่นไหว้ด้วย หากไม่ทำการเซ่นไหว้ วิชาอาคมจะเข้าแทรกซ้อนตัวจนทำให้เป็นบ้าและเสียชีวิตได้ ปอบชนิดนี้จะมีความดุร้ายมากและฉลาดอีกด้วย พวกมันจะไม่กินของสุกๆดิบๆ เหมือนปอบประเภทอื่น และจะบำเพ็ญจนวิชาอาคมแก่กล้าอีกด้วย

ประเภทที่ 4 ปอบเจ้า เป็นราชาของปอบทั้งมวล คือเป็นผีปอบที่ผ่านการขับไล่ของหมอผีมาแล้ว ปอบประเภทนี้คือปอบหนึ่งในสามประเภทข้างต้นที่ถูกทำร้ายกักขังจนเกิดการอาฆาตแค้น เมื่อถูกปลดปล่อยจะเข้าสิงสัตว์และมนุษย์และะกินทกอย่างที่ขวางหน้ารวมทั้งตับไตไส้พุง เมื่อผีปอบตัวนี้เข้าไปอยู่ที่บ้านใด บรรดาไก่เป็ดที่เลี้ยงไว้จะหมดเล้าภายในคืนเดียว เมื่อบ้านใดที่ไก่ถูกกินนหมดเล้าจะเรียกว่าห่าลง

ที่มา ยำสยอง Youtube Channel

ขายการ์ตูนสยองขวัญ pdf ออนไลน์ คลิกดูรายละเอียดแต่ละเรื่องเลยจ้า
ขายเล่มละ 20 บาทค่ะ
ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดแอดไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ richyamazon@gmail.com


anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 21:42:24 น. »
เครมลินประณามการโจมตีของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวถึงสถานการณ์ในอิหร่านว่าเป็นแหล่งที่น่ากังวล

รัสเซียแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของอเมริกาเครมลินกล่าววันนี้

การกระทำของอเมริกาทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมในความขัดแย้งเพิ่มขึ้นและทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของความขัดแย้งกล่าว

เขากล่าวเสริมด้วยว่ายังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงงานนิวเคลียร์อิหร่านและมีความเสี่ยงจากรังสีหรือไม่

ตามที่เปสคอฟกล่าว สถานการณ์บนพื้นดินในอิหร่านภายหลังการโจมตีไม่สามารถเป็นแหล่งที่น่ากังวลได้

รัสเซียได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับอิหร่านในเดือนมกราคม แม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดความช่วยเหลือด้านการป้องกันร่วมกัน ก็ตาม ก่อนที่สหรัฐฯ จะโจมตีเมื่อวันเสาร์ มอสโกว์ได้เตือนว่าการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ อาจทำให้ภูมิภาคทั้งหมดไม่มั่นคงและจมดิ่งลงสู่ "เหวลึก"

เปสคอฟกล่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ไม่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน อย่างละเอียดเกี่ยวกับแผนการโจมตีล่วงหน้า แม้ว่าพวกเขาจะหารือถึงความเป็นไปได้ที่กองทัพสหรัฐฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมโดยทั่วไปก็ตาม

เมื่อถูกถามว่าตอนนี้รัสเซียพร้อมจะทำอะไร เปสคอฟกล่าวว่ามอสโกว์เสนอบริการเป็นคนกลาง และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะขึ้นอยู่กับว่าอิหร่านต้องการอะไร

Country Fact and Event Around The World


anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 21:43:52 น. »
6 ตำนานผีของภาคเหนือ

อันดับที่ 6 ตำนานจุติ อสูรกายผีลิง
อสูรกายผีลิงมีลักษณะรูปร่างคล้ายลิง มีขนสีน้ำตาลตามตัว มีหางที่ยาวมากกว่าลำตัว มีนิ้วมือและนิ้วเท้าข้างละ 5 เหมือนมนุษย์ แต่นิ้วเท้าและมือจะยาวกว่ามนุษย์ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอสูรกายผีลิงว่า สมัยก่อน อุ๊ยแดง ได้เดินทางเข้าไปในป่าล่าสัตว์กับเพื่อน และก็ได้เจอกับลิงตัวหนึ่ง อุ๊ยแดงเล็งปืนด้ามไม้ไปที่ลิงตัวนั้น เมื่อได้จังหวะ เขาได้ทำการลั่นไกปืนทันที ลิงตัวนั้นเมื่อถูกยิงก็ได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และส่งเสียงร้องเรียกลูกๆ ของมัน ด้วยความที่อุ๊ยแดงไม่รู้ว่าลิงตัวนั้นมีลูกน้อย เลยรู้สึกเสียใจและนำลิงตัวนั้นไปฝัง เมื่อเวลาผ่านไปอุ๊ยแดงได้ให้กำเนิดลูกออกมาเป็นลิง แต่ลิงตัวนั้นก็อยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน มันก็ตายจากไป อุ๊ยเงิน ซึ่งเป็นพี่ชายของอุ๊ยแดง ได้นำลิงตัวนั้นไปฝัง ก่อนฝังก็ท่องคาถาตัดหัวต่อก้น เพื่อไม่ให้ลิงตัวนั้นมาเกิดอีก

อันดับที่ 5 พญานาค
พญานาคเป็นที่คุ้นหูของคนไทยเราอยู่แล้ว พญานาคมีลักษณะคล้ายกับงู ลำตัวใหญ่ ส่วนหัวจะมีหงอนสีทอง ตาสีแดง ลำตัวจะเป็นเกล็ดเหมือนปลา ลำตัวและเกล็ดจะแตกต่างกันไป แล้วแต่บารมีที่พญานาคตนนั้นได้สะสมเอาไว้ คือสีดำ สีเขียว หรือมีเจ็ดสีอยู่ในตัว เศียรตรงหัวของพญานาค จะบ่งบอกถึงตระกูล เศียรอันเดียวจะบ่งบอกถึงตระกูลธรรมดา ถ้ามีเศียรที่มากขึ้นแสดงถึงระดับของตระกูลที่สูงขึ้น

อันดับที่ 4 ผีม้าบ้อง
ตามตำนานของล้านนา ผีม้าบ้อง คือ ผีกะ ที่แก่กล้ามากๆ เลยกลายเป็นผีม้าบ้อง บางตำนานก็เล่าว่าเป็นผีที่ชอบแทะหัวควายแห้ง ผีม้าบ้องมีลักษณะครึ่งคนครึ่งม้า ผีม้าบ้องเกิดจากปาฏิหาริย์ของผีกะ เมื่อผีกะมีพลังที่แก่กล้าจะแปลงกายให้คล้ายม้า สีของลำตัวโดยมากจะเป็นสีหม่น มีตำนานเล่าว่าผีกะจะเข้าสิงเจ้าของของมัน โดยส่วนมากจะเป็นผู้ชาย ในเดือนมืดข้างแรม โดยมันจะพับขาเป็นสองข้างกับตัว หันศอกไปด้านหน้าให้เหมือนกับหูของม้า ใช้ผ้าขาวม้าผูกเอว แล้วเอาชายผ้าไว้ข้างหลังให้เหมือนกับหางม้า แล้ววิ่งออกไปข้างนอก เสียงของมันคล้ายกับเสียงวิ่งของวัวควาย

อันดับที่ 3 ผีป๊กกระโหล่ง
ผีตนนี้เกิดจากชาวเขาชาวดอยที่รักและห่วงธรรมชาติมาก เมื่อตายไปจะเกิดเป็นผีป๊กกระโหล่ง คอยดูแลผืนป่า ผีตนนี้มีลักษณะเหมือนคนป่า ผมยุ่งเหยิงเหมือนลิงมากกว่าคน และมักพกกะลาไว้เสมอ เวลาปรากฏตัวจะส่งเสียง ป๊กกระโหล่ง ป๊กกระโหล่ง ป๊กกระโหล่ง มาแต่ไกล โดยปกติแล้วผีตนนี้จะไม่ทำร้ายมนุษย์ก่อน แต่หากมนุษย์ไปทำลายป่า ตัดไม้ทำลายป่า ฆ่าสัตว์ป่า ผีตนนี้จะปรากฏตัวขึ้นมาและทำร้ายคนทันที คนที่ตายอยู่กลางป่าหรือหลงทางอยู่ในป่า เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของผีป๊กกระโหล่งนี้เอง

อันดับที่ 2 ผีกะ
ผีกะเป็นวิญญาณที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ในหม้อห่อด้วยผ้าขาวและจะถูกส่งต่อให้คนรุ่นลูกหลาน เปรียบเสมือนมรดกตกทอด แต่หากไม่มีผู้สืบทอดก็จะเก็บเอาไว้ในสิ่งของอย่างเช่น แหวน แก้ว หรือของมีค่าอื่นๆ และฝังไว้ใต้ดินบริเวณบ้าน ถ้ามีคนมาขุดพบแล้วนำสิ่งของนั้นไปเป็นของตน คนๆ นั้นขะต้องเป็นเจ้าของผีกะคนต่อไป ผีกะจะมีนิสัยอาฆาตแค้น ถ้าใครไปทำให้ผีกะอับอาย เมื่อคนๆ นั้นดวงตกเมื่อไหร่ ผีกะจะทำการล้างแค้นทันที ผีกะจะชอบกินของสดของคาวคล้ายๆ ผีปอบ ทั้งของสัตว์และมนุษย์ ผีกะมักชอบทำร้ายคนที่ดวงตก คนขวัญอ่อน เด็ก และทำร้ายคนที่เจ้าของไม่ชอบ การที่ผีกะไปทำร้ายคนอื่นนั้นมีเหตุผลสองอย่างคือ ไปตามคำสั่งของเจ้าของ กับเจ้าของนั้นเลี้ยงไม่ดีจึงออกไปทำร้ายคนอื่นเพื่อให้เจ้าของอับอายขายหน้า

อันดับที่ 1 นอนกัดกระดูกผี
ตามความเชื่อเล่าว่า คนที่ชอบนอนกัดฟันตอนกลางคืน คือคนที่ผีเอากระดูกมาให้กัด ไม่มีใครรู้สาเหตุว่า ทำไมผีจึงเอามาให้กัด แต่หากอยากเห็นว่าคนที่นอนกัดฟันนั้นจะมีผีเอากระดูกมาให้กัดจริงหรือเปล่า ให้เอาขี้ตาของสุนัขมาทาที่ตาแล้วก้มมองลอดใต้หว่างขา วิธีรักษาไม่ให้ผีเอากระดูกมาให้กัดนั้น มีอยู่สองวิธีคือ
1. เวลาไปงานศพของแม่ม่ายให้ขโมยไม้กวาดดอกหญ้ากลับมาด้วย ก่อนจะเอาให้พูดในใจว่า ลูกขอเอาเศษไม้กวาดกลับบ้านและขอให้ (ชื่อของผู้ที่นอนกัดฟัน) หายจากการนอนกัดฟันด้วยเถิด
2. ให้แอบขโมยเสี้ยนไม้ของโลงศพแม่ม่าย ก่อนจะหยิบก็ให้พูดในใจเหมือนวิธีแรก

ขายการ์ตูนสยองขวัญ pdf ออนไลน์ คลิกดูรายละเอียดแต่ละเรื่องเลยจ้า
ขายเล่มละ 20 บาทค่ะ
ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดแอดไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ richyamazon@gmail.com


anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 21:46:08 น. »
6 เรื่องสยองขวัญที่น่ากลัวของ IRS
1. วันหยุดพักผ่อนในหมู่เกาะเคย์แมน Gone Bad
เมื่อคนส่วนใหญ่ได้ยินคำว่า "หมู่เกาะเคย์แมน" พวกเขาอาจนึกถึงวันหยุดพักผ่อนในทะเลแคริบเบียนที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามหลายคนอาจคิดเกี่ยวกับที่พักพิงภาษีที่ผิดกฎหมายเนื่องจากหมู่เกาะค่อนข้างน่าอับอายสำหรับการจัดการบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้หลบเลี่ยงภาษีชาวอเมริกันจำนวนมาก ไม่กี่ปีที่ผ่านมาโจพบปัญหาเล็กน้อยของตัวเองในหมู่เกาะเคย์แมน เขาและคู่ค้าทางธุรกิจของเขาเคยไปพักผ่อนและธนาคารในเกาะต่าง ๆ เป็นประจำจนกระทั่งภรรยาอดีตจอมแค้นของโจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เธอปิดกรมสรรพากรและโจพบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบ่ายวันหนึ่งเมื่อตัวแทนของรัฐบาลกลาง 25 รายบุกบ้านและธุรกิจของเขายุติข้อมูลทางการเงินทุกชนิด โจถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงของการบินและถูกจำคุกต่ำกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ต้องใช้คดีหลายสิบคดีและค่าใช้จ่ายทางกฎหมายหลายพันดอลลาร์เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาและส่งผลให้วิถีชีวิตของโจเปลี่ยนไปอย่างมาก

2. การตรวจสอบใบเสร็จรับเงินที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ผู้ตรวจสอบบัญชีมีชื่อเสียงในเรื่องความยากลำบากในทุกเวลาจากนั้นเมื่อมาถึงการบันทึกค่าใช้จ่ายและมีคุณสมบัติเหมาะสมในการขอสินเชื่อ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่กรณีของผู้เสียภาษีที่ชื่อเฮเทอร์ซึ่งถูกตรวจสอบโดยสิ่งที่เธออ้างถึงในขณะนี้ว่าเป็นผู้สอบบัญชีที่ไร้ความปรานีที่สุดในโลก เธออ้างว่าผู้สอบบัญชีที่สงสัยเธอไม่เพียง แต่พิสูจน์ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจของเธอเท่านั้น แต่ยังรับใบเสร็จสำหรับการทำธุรกรรมส่วนตัวและอาชีพทุกครั้งที่ทำในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผู้สอบบัญชีคาดว่าจะทำให้เธอมีรายรับจากการทำธุรกรรมเพียงเล็กน้อยหรือหนึ่งดอลลาร์ เฮเทอร์ไม่สามารถหาเอกสารทุกฉบับที่จำเป็นและต้องเผชิญกับบทลงโทษหลายประการ

3. พวกเขามาพร้อมกับปืน
John Colaprete เจ้าของร้านอาหารตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งในเดือนมีนาคมในปี 1994 โดยไม่สงสัยถึงความหวาดกลัวที่จะมาถึงประตูบ้านของเขาในไม่ช้า บ่ายวันนั้นตัวแทนของรัฐบาลกลางกวัดแกว่งปืนบุกบ้านผู้จัดการร้านอาหารของเขากลับบ้านและร้านอาหารสองแห่งของเขาโดยไม่มีคำอธิบายและไม่ต้องขอโทษ จอห์นอดีตนาวิกโยธินตกตะลึงและไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดการจู่โจมแบบนี้ได้อย่างไร ปรากฎว่าหนึ่งในอดีตผู้ทำบัญชี Johns ที่ถูกไล่ออกจากการยักยอกจากนายจ้างของเธอได้ไป IRS ด้วยเรื่องราวสยองขวัญของเธอเอง อย่างไรก็ตามเธอสร้างเรื่องราวของเธอเพื่อปกปิดความผิดพลาดของตัวเองและบอก IRS ว่าจอห์นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการค้าปืน

เมื่อกรมสรรพากรตระหนักว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จอห์นกลายเป็นแชมป์สำหรับผู้เสียภาษีที่ถูกเหยียดหยามทุกที่ เขาพูดกับวุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกาจำนวนมากเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาและอธิบายว่าร้านอาหารของเขาถูกทิ้งให้อยู่ในความโกลาหลและชื่อเสียงของเขาถูกทำลายด้วยเรื่องอื้อฉาวเท็จ ทุกวันนี้จอห์นได้รับโทรศัพท์ทุกวันจากผู้เสียภาษีที่แบ่งปันเรื่องราวสยองขวัญของ IRS

4. ผู้เตรียมที่ถูกดูถูก
ในปี 1994 ริชาร์ดผู้เตรียมภาษีที่มีประสบการณ์เป็นเจ้าของ บริษัท บัญชีและภาษีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในรัฐโอคลาโฮมา อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็เห็นด้านมืดของ IRS บ่ายวันหนึ่งตัวแทนของรัฐบาลกลางกว่า 20 คนบุกธุรกิจของเขาโดยสงสัยว่ามีการฉ้อโกง อย่างไรก็ตามการ์ดเนอร์ไร้เดียงสาอย่างสมบูรณ์ เมื่อพบว่าไม่มีความผิดเขาก็ดำเนินคดีทางกฎหมายกับ IRS ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ชนะคดีภายใต้การแปรญัตติของไฮด์และได้รับเงินจากรัฐบาลกลาง

5. ร้านขายเนื้อร้านขายเนื้อ
ซีเลียเจ้าของร้านเสริมสวยที่ซื่อสัตย์และขยันหมั่นเพียรมีชีวิตของเธอถูกทำลายโดย IRS เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่ออุปกรณ์ของร้านเธอถูกยึดและขายในการประมูลเพื่อชำระหนี้ภาษีคืน ซีเลียไม่รู้เรื่องภาษีมากนักและจ้างมืออาชีพมาช่วยเธอ โชคดีที่ที่ปรึกษาด้านภาษีพบว่าซีเลียจ่ายภาษีเต็มจำนวนแล้ว กรมสรรพากรได้ทำผิดพลาดทางคณิตศาสตร์โดยไม่ตั้งใจป้อนจำนวนภาษีของเธอสองครั้งในระบบซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้จ่ายภาษีของเธอเลย แม้ว่าเธอจะได้รับอุปกรณ์คืน แต่เธอสูญเสียลูกค้าและรายได้จำนวนมากเนื่องจากเหตุการณ์

6. Ghosts of Receipts ที่ผ่านมา
Julie เผชิญกับฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของเธอในเย็นวันหนึ่งเมื่อเธอกลับมาที่รถดับเพลิงหน้าบ้านที่กำลังลุกไหม้ เพื่อให้เรื่องเลวร้ายยิ่งขึ้นกำหนดเวลาภาษีอยู่ใกล้แค่เอื้อมและเธอก็ไม่สามารถกู้คืนเอกสารทางการเงินได้เพียงพอที่จะเตรียมการคืนเธอ Julie ติดต่อ IRS เพื่ออธิบายสถานการณ์และบอก IRS ส่วนตัวว่าเธอทำเอกสารทางการเงินและใบเสร็จรับเงินทั้งหมดของเธอหายไปได้อย่างไร แม้ว่าเธอจะสามารถยื่นขอนามสกุลอัตโนมัติได้ แต่จูลี่ก็ตกใจที่พบจดหมายการตรวจสอบของ IRS ทางไปรษณีย์น้อยกว่าสองสัปดาห์ต่อมา หากไม่มีหลักฐานใด ๆ ในการสำรองข้อมูลในผลตอบแทนก่อนหน้าของเธอเธอถูกบังคับให้จ่ายเงินมากกว่า $ 18,000 ในภาษีและค่าปรับที่ยังไม่ได้ชำระ


6 ตำนานผีของภาคเหนือ
5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
10 ตำนานผีอาเซียนประเทศเพื่อนบ้านสุดสยอง
มนุษย์กินคนในตำนาน ซอว์นี่ บีน (Sawney Bean)
10 อันดับฆาตกรต่อเนื่องที่อำมหิตที่สุดในโลก
8 อันดับฆาตกรสุดโหดแห่งสยามเมืองยิ้ม
เล่าเรื่องสยองขวัญ แดนพิศวง
อลิซาเบธ บาโธรี่ เคานท์เตสกระหายเลือด



25 อาหารแปลกจากทั่วโลก
เล่าเรื่องสยองขวัญ ตายอย่างไก่
เล่าเรื่องสยองขวัญตอนบ้านร้าง
เล่าเรื่องสยองขวัญ ยายไอ้แผน
เล่าเรื่องสยองขวัญ ผีปอบที่วัดป่า
เล่าเรื่องสยองขวัญ ไม่น่าหยิบมา
เล่าเรื่องสยองขวัญ ปอบ
เล่าเรื่องสยองขวัญ แม่ยายเป็นปอบ
เล่าเรื่องผี ปอบห้องเช่า
เล่าเรื่องผี ยายสาย
เล่าเรื่องผี ยายขึ้นไปทำอะไร
ตำนานผีญี่ปุ่น รวมปีศาจสัตว์
เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง
เล่าเรื่องสยองขวัญ คุณแม่เล่าให้ฟัง
เล่าเรื่องสยองขวัญ อยากลองจนเจอดี
เล่าเรื่องสยองขวัญ บ้านเก่า
เล่าเรื่องสยองขวัญ 6 ปีไม่เคยลืม
เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ
เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี
เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้
เล่าเรื่องสยองขวัญ เพื่อนเล่าให้ฟัง
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเทพเจ้ากินคน
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องหัวกะโหลกร้องเพลง
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแค้นของนักบวชชรา 1
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแค้นของนักบวชชรา 2
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแเค้นของโอมุชะ
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องบ่อนํ้าของคนตาย
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผีของหมู่บ้านชิตานิซามอน
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องก้อนหินร้องไห้ยามค่ำคืน
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณของโอมัตสึ
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องต้นสนแขวนวิญญาณ
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณเลี้ยงลูก
ตำนานผีญี่ปุ่น คาซาเนะ
ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน
ตำนานผีญี่ปุ่น กาซาโดคุโร
ตำนานผีญี่ปุ่น ผีตระกูลเฮอิเคะ
เล่าเรื่องสยองขวัญ สโมสรร้าง
เล่าเรื่องสยองขวัญ แรงงานต่างด้าว
เล่าเรื่องสยองขวัญ สาวชุดดำ
เล่าเรื่องสยองขวัญ วิญญาณอาฆาต
บ้านหลอนแดนนรก
10 สุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค
เครื่องทรมานในอดีต
วิวาห์สังหารในอินเดีย ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ศพ
เทศกาลตำนานวันปล่อยผี
เล่าเรื่องผี มาเอาแม่ผมไปทำไม
คดีโหดแห่งเขาแอลป์
13 เมืองอาถรรพ์
คดีวิตถาร ครูสาวทำช็อคฆ่าข่มขืนนักเรียนหญิง
ย้อนรอยคดีซีอุยฆ่ากินเครื่องในเด็ก
ไขปริศนาใครคือแจ๊คเดอะริปเปอร์ (Jack The Ripper)
ย้อนรอยคดีพิศวาสฆาตกรรม นวลฉวีและศยามล
10 สถานที่สุดแห่งความสยองขวัญ
10 อันดับฆาตกรเด็ก
ปริศนามรณะตระกูลเคนเนดี้
แคทเธอรีน เฮย์ ต้นตำรับคดีฆ่าหั่นศพ
เดวิด เบอร์โควิทซ์ ฆาตกรต่อเนื่องแห่งนิวยอร์ค
คดีฆาตกรรมในโรงนาสีแดง (Red Barn Murder)
ยโศโฆษาฆาต ฆ่าเพื่อเกียรติยศของครอบครัว




anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 21:46:51 น. »
10 หนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดพฤติกรรมด้านมืด
เราทุกคนต่างก็รักหนังสือดีๆ สักเล่ม และถ้าพูดตามตรงแล้ว แฟนพันธุ์แท้ ของแฮรี่ พอตเตอร์ ส่วนใหญ่ คงยอมรับว่าเคยโบกไม้กายสิทธิ์ไปมาในขณะที่แสดง "เด็กชายผู้รอดชีวิต" ในตัวเรา อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกเล่มจะวิเศษเท่ากัน แม้ว่านวนิยายและงานวรรณกรรมมักจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และความเห็นอกเห็นใจ แต่ผู้อ่านบางคนก็ตีความเรื่องราวบางเรื่องในลักษณะที่นำไปสู่พฤติกรรมที่แปลกประหลาดสิบกรณีเหล่านี้สะท้อนให้เห็นช่วงเวลาที่โลกแห่งจินตนาการกลายเป็นความจริง โดยผู้คนอ้างว่านวนิยายหรือตัวละครผลักดันให้พวกเขาทำสิ่งที่แปลกประหลาดและน่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ที่เข้าใจผิดหรือปรัชญาที่น่ากลัว อิทธิพลเหล่านี้เผยให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่และคาดเดาไม่ได้ของคำพูดที่เขียนขึ้น

แดร็กคูล่า โดย บราม สโตเกอร์: ริชาร์ด เทรนตัน เชส
นวนิยาย เรื่อง Draculaตีพิมพ์ในปี 1897 และนำเสนอตำนานแวมไพร์ยุคใหม่ โดยยกย่องเคานต์ Dracula ว่าเป็นบุคคลที่มีชีวิตรอดโดยการดื่มเลือดมนุษย์ เสน่ห์อันดำมืดของนวนิยายเรื่องนี้ดึงดูดใจผู้ชม ทำให้แนวคิดเรื่องแวมไพร์ฝังรากลึกในวัฒนธรรมสมัยนิยม หลายทศวรรษต่อมา ความหลงใหลนี้ยังคงสะท้อนให้เห็นริชาร์ด เทรนตัน เชส “แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต” ผู้ลงมือฆาตกรรมอันโหดร้ายระหว่างปี 1977 ถึง 1978เชสเป็นที่รู้จักกันดีในวัยเด็กว่าฆ่าสัตว์และกินเลือดนกด้วยซ้ำ เชสป่วยด้วยโรคจิตเวชร้ายแรง เขาเชื่อว่าเลือดของตัวเองกำลังจะหายไป และเขาสามารถมีชีวิตรอดได้โดยการดื่มเลือดสดเท่านั้น เขาฆ่าคนไปหกคน โดยดื่มเลือดของพวกเขาและกินส่วนหนึ่งของเหยื่อด้วยเมื่อตำรวจจับกุมเชส พวกเขาพบว่าบ้านของเขาเต็มไปด้วยเลือดมนุษย์ โดยมีร่องรอยพบในเครื่องปั่นและอ่างล้างจาน ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์มาเป็นเวลานาน ในปี 1979 เชสถูกนำตัวขึ้นศาล โดยทนายความของเขาโต้แย้งว่าเขาเป็นบ้าตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม คณะลูกขุนพบว่าเขามีสติสัมปชัญญะดี จึงตัดสินให้เขามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา 6 กระทง และตัดสินให้ประหารชีวิต ต่อมาเชสได้ฆ่าตัวตายในห้องขังที่ซานเควนตินเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1980

The Catcher in the Rye โดย JD Salinger: Mark David Chapman
หนังสือเรื่อง The Catcher in the Ryeของ JD Salinger ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1951 กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความแปลกแยกในวัยรุ่น โดยมีตัวเอกอย่าง Holden Caulfield ที่แสดงถึงความดูถูกเหยียดหยามต่อ "ความเสแสร้ง" ของสังคม สำหรับผู้อ่านส่วนใหญ่ ความหงุดหงิดของ Holden เป็นเพียงความคิดถึงการเติบโตที่เข้าถึงได้ แต่สำหรับ Mark David Chapman นวนิยายเรื่องนี้กลับกลายเป็นความหมกมุ่นที่อันตรายในปี 1980 แชปแมนลอบสังหารจอห์น เลนนอนนอกอาคารดาโกต้าในนิวยอร์ก โดยอ้างว่าเขาเห็นเลนนอนเป็นตัวอย่างของความเสแสร้งที่โฮลเดนเกลียดชัง สำหรับแชปแมนแล้ว ความมั่งคั่งและชื่อเสียงของเลนนอนขัดแย้งกับข้อความแห่งสันติภาพของเขา ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายของความชอบธรรมที่หลงผิด แชปแมนพกสำเนาหนังสือThe Catcher in the Ryeติดตัวไปด้วยในคืนที่เกิดการฆาตกรรม โดยจารึกข้อความอันน่าสะเทือนขวัญว่า “นี่คือคำกล่าวของฉัน” พร้อมเซ็นชื่อของโฮลเดน คอลฟิลด์หลังจากการยิง เขาอ่านหนังสืออย่างใจเย็นในขณะที่รอตำรวจมาถึง ระหว่างการพิจารณาคดี แชปแมนอ้างถึงนวนิยายเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยระบุว่าเป็นข้ออ้างในการฆ่าเลนนอน การกระทำนี้ทำให้ผลงานที่มีชื่อเสียงของแซลิงเจอร์กลายเป็นจุดเชื่อมโยงที่น่าอับอายในหนึ่งในอาชญากรรมที่น่าตกตะลึงที่สุดในศตวรรษที่ 20 แม้ว่าThe Catcher in the Ryeยังคงเป็นวรรณกรรมคลาสสิก แต่ความเกี่ยวข้องของหนังสือเล่มนี้กับการฆาตกรรมเลนนอนเป็นเครื่องเตือนใจอันน่ากลัวว่าศิลปะสามารถถูกตีความผิดได้อย่างอันตราย

ความโศกเศร้าของแวร์เทอร์วัยหนุ่ม โดยโยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่
The Sorrows of Young Wertherของเกอเธ่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1774 บันทึกเรื่องราวความทุกข์ทรมานทางอารมณ์ของแวร์เทอร์ ชายหนุ่มที่หลงรักผู้หญิงคนหนึ่งอย่างหมดหัวใจซึ่งเขาไม่มีวันได้ครอบครองได้ ความอกหักของแวร์เทอร์ทำให้เขาฆ่าตัวตาย ซึ่งจุดสุดยอดคือการพรรณนาถึงความสิ้นหวังในเชิงโรแมนติก นวนิยายเรื่องนี้ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้อ่านรุ่นเยาว์ทั่วทั้งยุโรปอย่างลึกซึ้ง จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Werther Fever"บรรดาผู้ชื่นชมต่างเลียนแบบบุคลิกที่เศร้าโศกของแวร์เทอร์ด้วยการสวมเสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์และอ้างถึงคำพูดคนเดียวที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของเขา อย่างไรก็ตาม การพรรณนาถึงการฆ่าตัวตายในนวนิยายเรื่องนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการเลียนแบบการเสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลให้มีการเซ็นเซอร์ในหลายประเทศ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆThe Sorrows of Young Wertherถือเป็นตัวอย่างแรกๆ ของ "การฆ่าตัวตายที่แพร่ระบาด" ซึ่งการพรรณนาในสื่อนำไปสู่การเลียนแบบ ต่อมา นักสังคมวิทยา เดวิด ฟิลลิปส์ ได้บัญญัติศัพท์ "เอฟเฟกต์แวร์เทอร์" ขึ้นในปี 1974 เพื่ออธิบายรูปแบบที่น่าเศร้าโศกนี้แม้ว่าผลงานของเกอเธ่จะได้รับการยกย่องถึงความยอดเยี่ยมทางวรรณกรรม แต่ก็ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงทางจริยธรรมเกี่ยวกับความรับผิดชอบของนักเขียนในการนำเสนอหัวข้อที่ละเอียดอ่อน เช่น การฆ่าตัวตาย ผลงานของแวร์เทอร์เป็นทั้งพยานหลักฐานถึงพลังของการเล่าเรื่องและเรื่องราวเตือนใจเกี่ยวกับผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ผลงานทางประวัติศาสตร์ยังคงเป็นการสะท้อนที่น่าคิดเกี่ยวกับอิทธิพลของศิลปะที่มีต่อจิตใจที่เปราะบาง

ดังที่ซาราธัสตราพูดไว้ โดยฟรีดริช นีตเชอ: เลโอโปลด์และโลบ
หนังสือ Thus Spoke Zarathustraของ Friedrich Nietzsche ท้าทายผู้อ่านด้วยแนวคิดที่เร้าใจเกี่ยวกับศีลธรรมและแนวคิดของ ?bermensch หรือ “ซูเปอร์แมน” ผู้ก้าวข้ามบรรทัดฐานทางจริยธรรมแบบเดิม แม้ว่าปรัชญาจะมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้บุคคลมีความยิ่งใหญ่ แต่กลับกลายเป็นเรื่องเลวร้ายในปี 1924 เมื่อ Nathan Leopold และ Richard Loeb นักศึกษาผู้มีสิทธิพิเศษสองคนจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สังหาร Bobby Franks วัย 14 ปีอย่างโหดร้ายเลโอโปลด์และโลบมองว่าตนเองเป็น ?bermenschen ของนิตเช่ พวกเขาจึงพยายามก่ออาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบเพื่อพิสูจน์ความเหนือกว่าทางสติปัญญาและอิสระจากข้อจำกัดทางศีลธรรมของตน ในระหว่างการพิจารณาคดี ฝ่ายจำเลยของพวกเขาโต้แย้งว่าการตีความปรัชญาของนิตเช่ของพวกเขามีส่วนทำให้การใช้เหตุผลของพวกเขาคดโกง คดีนี้สร้างความตกตะลึงให้กับประเทศชาติ ไม่เพียงเพราะลักษณะที่โหดร้ายเท่านั้น แต่ยังเน้นให้เห็นว่าแนวคิดทางวิชาการสามารถบิดเบือนเพื่อให้เป็นข้ออ้างสำหรับการกระทำที่ชั่วร้ายได้อย่างไรการฆาตกรรมและการใช้คำพูดของซาราธัสตราเพื่ออธิบายเหตุผลนั้นยังคงเป็นตัวอย่างที่น่าสะพรึงกลัวว่าทฤษฎีทางปรัชญาอาจถูกตีความผิดอย่างอันตรายได้อย่างไรเมื่อแยกออกจากบริบท งานของนีตเช่แม้จะได้รับการยกย่องในด้านความลึกซึ้งและนวัตกรรม แต่บ่อยครั้งที่งานของนีตเช่ถูกบดบังด้วยการนำไปใช้ในทางที่ผิดในอาชญากรรมที่น่าอับอายนี้

First Blood โดย David Morrell: Michael Ryan
First Bloodของ David Morrell นำเสนอเรื่องราวของ John Rambo อดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามที่ผันตัวมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งต่อสู้กับความอยุติธรรมที่ผู้คนรับรู้ แม้ว่าการต่อสู้ดิ้นรนของ Rambo จะสื่อถึงความเจ็บปวดและความแตกแยกที่ทหารผ่านศึกต้องเผชิญ แต่จิตวิญญาณแห่งการเอาตัวรอดของตัวละครนี้กลับกลายมาเป็นต้นแบบทางวัฒนธรรมของการกบฏของหมาป่าเดียวดาย สำหรับ Michael Ryan บุคลิกนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจอันมืดมนในปี 1987 ไรอันก่อเหตุกราดยิงในเมืองฮังเกอร์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ จนมีผู้เสียชีวิต 16 ราย ความหลงใหลของไรอันที่มีต่อ First Blood และตัวละครเอกในเรื่องนี้เห็นได้จากพฤติกรรมของเขา ตั้งแต่การสะสมอาวุธไปจนถึงการแสดงท่าทีต่อสู้แบบแรมโบ้ ไรอันสวมชุดทหารและสร้างความหวาดกลัวให้กับชุมชนของเขา โดยเดินไปทั่วเมืองด้วยความแม่นยำราวกับทหารที่ผ่านการฝึกฝนมา พยานหลายคนบรรยายถึงความสงบเยือกเย็นที่น่าสะพรึงกลัวของเขาว่าคล้ายกับตัวละครที่แสดงบทภาพยนตร์หลังจากการสังหารหมู่ นักสืบพบว่าไรอันได้เลียนแบบตัวละครส่วนใหญ่จากผลงานการสร้างของมอร์เรลล์ ซึ่งเน้นย้ำว่าแรมโบ้ในจินตนาการได้กลายมาเป็นตัวละครอันตรายสำหรับผู้ที่ไม่มั่นคง การสังหารหมู่ที่ฮังเกอร์ฟอร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับความรุนแรงในสื่อ การควบคุมปืน และอิทธิพลของตัวละครในจินตนาการที่มีต่อการกระทำในโลกแห่งความเป็นจริง First Blood ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันน่าสะเทือนใจว่าสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมสามารถส่งผลที่ไม่ได้ตั้งใจได้อย่างไรเมื่อบุคคลที่ไม่ถูกต้องยกย่องให้ความเคารพ

Rage โดย Stephen King: ไมเคิล คาร์นีล
Rageของ Stephen King ซึ่งเขียนภายใต้นามแฝงว่า Richard Bachman เล่าถึงความคิดที่น่าวิตกกังวลของวัยรุ่นที่ไม่พอใจและก่อเหตุยิงกันในโรงเรียน หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1977 ในตอนแรกไม่ค่อยมีใครโต้แย้ง แต่ชื่อเสียงของหนังสือเล่มนี้กลับกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วหลังจากถูกโยงกับโศกนาฏกรรมในชีวิตจริง หนึ่งในนั้นก็คือเหตุการณ์ยิงกันที่โรงเรียนมัธยม Heath ในเมืองแพดูคาห์ รัฐเคนตักกี้ ในปี 1997ไมเคิล คาร์นีล วัย 14 ปี เปิดฉากยิงกลุ่มสวดมนต์ ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีก 5 คน ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่พบเรจในตู้เก็บของของคาร์นีล ทำให้มีการคาดเดากันว่าหนังสือเล่มนี้อาจมีอิทธิพลต่อการกระทำของเขา ความเชื่อมโยงระหว่างเรจกับเหตุการณ์ยิงกันในโรงเรียนหลายครั้งทำให้คิงตัดสินใจหยุดพิมพ์หนังสือในปี 1997 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คิงยอมรับว่านวนิยายเรื่องนี้มีศักยภาพที่จะเข้าถึงเยาวชนที่มีปัญหา และเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบของผู้เขียนในการป้องกันอันตรายแม้ว่าคิงจะแสดงความสงสัยว่าเรจเป็นสาเหตุโดยตรงของการยิงกัน แต่เขาก็ยอมรับว่าธีมของเรจอาจเป็นทางออกที่อันตรายสำหรับผู้อ่านที่แยกตัวออกไป ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นรอบๆ เรจยังคงเป็นกรณีศึกษาที่น่าคิดว่าผลงานในนิยายสามารถเชื่อมโยงกับความรุนแรงในชีวิตจริงได้อย่างไร ซึ่งบังคับให้สังคมต้องดิ้นรนกับความรับผิดชอบทางจริยธรรมของผู้สร้างสรรค์

Frankenstein โดย Mary Shelley: Robert Cornish
Frankensteinของ Mary Shelley เป็นผลงานชิ้นเอกของวรรณกรรมแนวโกธิกที่กล่าวถึงปัญหาทางจริยธรรมของความทะเยอทะยานทางวิทยาศาสตร์ ตัวเอกของเรื่องคือ Victor Frankenstein ซึ่งสร้างชีวิตขึ้นมาผ่านการทดลองต้องห้าม ซึ่งเป็นธีมที่ดึงดูดใจ Robert Cornish นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันในช่วงทศวรรษ 1930 Cornish ได้รับแรงบันดาลใจจากการสำรวจการฟื้นคืนชีพของ Shelley และได้ทำการทดลองของตัวเองเพื่อชุบชีวิตคนตายเขาใช้สุนัขที่ถูกทำการุณยฆาตพัฒนากลไกที่เรียกว่า “กระดานหก” เพื่อหมุนเวียนเลือดและฉีดสารเคมี เช่น ยากันเลือดแข็งและอะดรีนาลีน เพื่อกระตุ้นการทำงานที่สำคัญ สุนัขที่เขาเลี้ยงไว้บางตัวสามารถฟื้นคืนชีพได้ แม้ว่าจะประสบปัญหาร้ายแรง เช่น ตาบอดและระบบประสาทเสียหายก็ตาม ความหลงใหลของคอร์นิชในการฟื้นคืนชีพไม่ได้หยุดอยู่แค่สัตว์เท่านั้น เขายื่นคำร้องขอโอกาสในการนำวิธีการของเขาไปใช้กับศพมนุษย์ และยังเสนอให้ทำการทดลองกับนักโทษประหารอีกด้วยความพยายามของเขาจุดชนวนให้เกิดความโกรธแค้นในที่สาธารณะและการถกเถียงทางจริยธรรม ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยทางศีลธรรมที่เชลลีย์นำมาแสดงในนวนิยายของเธอ ในขณะที่ความทะเยอทะยานของคอร์นิชที่จะต่อต้านความตายสะท้อนถึงความเย่อหยิ่งของวิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ ผลที่ตามมาอันน่าสยดสยองของงานของเขาเน้นย้ำถึงอันตรายของวิทยาศาสตร์ที่ก้าวล้ำเกินไปแฟรงเกนสไตน์ยังคงเป็นเรื่องราวเตือนใจที่ไม่มีวันตาย และการทดลองที่น่าขนลุกของคอร์นิชทำหน้าที่เป็นตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงว่าธีมของเรื่องสามารถสร้างแรงบันดาลใจและบิดเบือนความทะเยอทะยานของมนุษย์ได้อย่างไร

The Secret Agent โดย Joseph Conrad: Ted Kaczynski (The Unabomber)
The Secret Agentของ Joseph Conrad เป็นการสำรวจการก่อการร้ายและความทันสมัยในเชิงมืดมน โดยนำเสนอภาพทางจิตวิทยาของนักอนาธิปไตยและอุดมคติที่ทำลายล้างของพวกเขา นวนิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ในปี 1907 และได้กระทบใจเท็ด คาซินสกี อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ที่ผันตัวมาเป็นผู้ก่อการร้ายในประเทศที่รู้จักกันในชื่อ Unabomber การรณรงค์ก่อการร้ายนาน 20 ปีของคาซินสกีเกี่ยวข้องกับการส่งระเบิดทำเองให้กับนักวิชาการ ผู้บริหาร และเป้าหมายอื่นๆ ที่เขาเชื่อมโยงกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคำประกาศของเขาเรื่อง “สังคมอุตสาหกรรมและอนาคต” สะท้อนถึงธีมจากนวนิยายของคอนราด ซึ่งโจมตีผลกระทบที่ไร้มนุษยธรรมของสังคมยุคใหม่และสนับสนุนการกบฏของปัจเจกบุคคล การโจมตีของคัชซินสกีทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและทำให้บาดเจ็บอีกหลายสิบราย ทำให้คนทั้งประเทศหวาดกลัวจนกระทั่งถูกจับกุมในปี 1996 ความผูกพันของเขากับThe Secret Agent นั้น เกิดจากการพรรณนาถึงความแปลกแยกและความรุนแรงที่เกิดจากความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับการแก้แค้นส่วนตัวของเขาที่มีต่อเทคโนโลยีแม้ว่านวนิยายของคอนราดจะเป็นผลงานชิ้นเอกทางวรรณกรรม แต่ก็กลายมาเป็นหลักฐานอ้างอิงสำหรับอุดมการณ์สุดโต่งของคาซินสกีโดยไม่ได้ตั้งใจ คดี Unabomber เน้นย้ำให้เห็นว่าผลงานศิลปะที่ซับซ้อนสามารถถูกตีความผิดได้โดยบุคคลที่ต้องการการยืนยันการกระทำของตน ซึ่งเปลี่ยนการวิจารณ์เชิงลึกให้กลายเป็นข้อแก้ตัวสำหรับการก่อการร้าย

แจ็ค เชพเพิร์ด โดย วิลเลียม แฮร์ริสัน เอนส์เวิร์ธ: เบอร์นาร์ด ฟรองซัวส์ คูร์วัวซีเยร์
นวนิยายเรื่อง Jack Sheppardของ William Harrison Ainsworth ดึงดูดใจผู้อ่านในยุควิคตอเรียด้วยการนำเสนอเรื่องราวชีวิตของโจรในศตวรรษที่ 18 Sheppard ถูกพรรณนาว่าเป็นแอนตี้ฮีโร่ที่เจ้าเล่ห์ซึ่งมีการผจญภัยที่กล้าหาญและนิสัยกบฏที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานพื้นบ้าน สำหรับ Bernard Fran?ois Courvoisier ซึ่งเป็นคนรับใช้ชาวสวิสในปี 1840 การยกย่องอาชญากรรมในนวนิยายเรื่องนี้กลับกลายเป็นแรงบันดาลใจที่อันตรายCourvoisier สังหารนายจ้างของเขา Lord William Russell โดยอ้างในภายหลังว่างานของ Ainsworth ทำให้เขาอยากเลียนแบบการท้าทายอำนาจของ Sheppard การฆาตกรรมครั้งนี้ทำให้เกิดความโกรธแค้นและความหวาดกลัวในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงที่กังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของนวนิยายเรื่องนี้ที่มีต่อคนรับใช้ของพวกเขา การที่ Ainsworth พรรณนาถึง Sheppard ในบทบาทคนโกงผู้มีเสน่ห์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และ Jack Sheppard ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนเจ้าชู้โดยกำเนิดคดีนี้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทของวรรณกรรมในการกำหนดพฤติกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้อ่านที่ประทับใจได้ง่าย แม้ว่านวนิยายเรื่องนี้จะตอกย้ำชื่อเสียงของ Ainsworth ในฐานะนักเขียนชั้นนำในยุคนั้น แต่ความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมของ Courvoisier ยังคงเป็นตัวอย่างที่น่าสะพรึงกลัวว่านวนิยายอาจถูกตีความผิดจนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายได้

พระคัมภีร์ซาตาน โดย Anton LaVey: Richard Ramirez
The Satanic Bibleของ Anton LaVey ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1969 ได้แนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับหลักคำสอนของลัทธิซาตานสมัยใหม่ โดยเน้นที่ลัทธิปัจเจกชนนิยม ลัทธิสุขนิยม และการปฏิเสธศีลธรรมแบบดั้งเดิม Richard Ramirez หรือ "Night Stalker" ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้นำหลักการเหล่านี้ไปใช้อย่างสุดโต่ง ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 Ramirez ได้ก่อเหตุฆาตกรรมอันโหดร้ายหลายครั้ง โดยมักจะอ้างถึงซาตานและทิ้งสัญลักษณ์ลึกลับไว้ในที่เกิดเหตุRamirez อ้างถึงThe Satanic Bibleว่ามีอิทธิพลสำคัญ โดยอ้างว่าคำสอนในพระคัมภีร์เป็นแนวทางในการกระทำของเขา อาชญากรรมของเขาซึ่งรวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศ การโจรกรรม และการฆาตกรรม สร้างความหวาดกลัวให้กับแคลิฟอร์เนียและสื่อระดับประเทศให้ความสนใจ การปรากฏตัวในศาลของเขายิ่งทำให้ความสยองขวัญทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเขาแสดงรูปดาวห้าแฉกและประกาศความจงรักภักดีต่อซาตาน แม้ว่างานของ LaVey มักถูกมองว่าเป็นปรัชญามากกว่าการยุยงให้เกิดความรุนแรง แต่การตีความของ Ramirez กลับบิดเบือนข้อความเพื่อให้เป็นข้ออ้างสำหรับการกระทำอันชั่วร้ายของเขาคดีนี้จุดชนวนให้เกิดความตื่นตระหนกทางศีลธรรมอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับลัทธิซาตานและความเชื่อมโยงกับอาชญากรรม ทำให้ The Satanic Bible ได้รับความสนใจในแวดวงวัฒนธรรม การกระทำของ Ramirez ยังคงเป็นหลักฐานอันมืดมนที่แสดงให้เห็นว่าอุดมการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือที่เข้าใจผิด สามารถจุดชนวนพฤติกรรมที่ทำลายล้างได้อย่างไร

Country Fact and Event Around The World

anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 22:28:27 น. »
10 เด็กที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
คุณอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า“ เด็ก ๆ สามารถโหดร้ายได้” ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นการอ้างอิงถึงการรังแกโรงเรียน มันอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่นเด็กเล็กดึงขาออกไปเดอร์ นักจิตวิทยาบอกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ความโหดร้ายเช่นนี้โดยเฉพาะกับสัตว์คือเด็ก ๆ ไม่ได้พัฒนาความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ บางครั้งพวกเขาไม่เข้าใจแรงโน้มถ่วงของการกระทำ แต่แล้วเด็กโตควรรู้ดีกว่า นักจิตวิทยายังบอกเราว่าเด็กโตที่มีแนวโน้มที่จะชั่วร้ายอาจได้รับความทุกข์ทรมานจากความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมพวกเขาอาจจะเป็นเพียงโรคจิตเล็กน้อยในการสร้างปีศาจที่ครอบงำด้วยทัศนคติต่อต้านสังคมและบางครั้งดูเหมือนไม่มีคำอธิบายเหตุผลว่าทำไมพวกเขา อย่างที่พวกเขาเป็น วันนี้เราจะมาแนะนำคุณกับเด็กที่เลวร้ายที่สุดในตอน Infographics Show, The Most Evil Kids ที่เคยมีชีวิตอยู่
10. ปีเตอร์วูดค็อก
เราจะเริ่มด้วยเด็กที่โตที่สุดในรายการซึ่งเราอาจกล่าวได้ว่าเกือบจะเป็นผู้ใหญ่เมื่อเขาทำสิ่งชั่วร้ายของเขา เขาอายุ 17 ปีเมื่อเขาเริ่มข่มขืนและฆ่าเด็กเล็ก ๆ ในโตรอนโตแคนาดาในปี 1950 Woodcock มีจุดเริ่มต้นที่ไม่ดีในชีวิต - เหมือนเด็ก ๆ หลายคนในรายการนี้ - เขาถูกเลี้ยงให้รับเลี้ยงดูจากแม่วัย 17 ปีของเขาและจากนั้นเขาก็ถูกพ่อแม่อุปถัมภ์ทางร่างกายและทางเพศทำร้าย เขาย้ายจากที่บ้านไปที่บ้านและถูกรังแกอย่างต่อเนื่อง ตอนอายุ 17 บางคนบอกว่าอายุ 16 ปีเขาสะกดรอยตามเด็กเล็ก ๆ ในโตรอนโต เขาขืนใจและฆ่าเด็กอายุเก้าขวบเด็กชายอีกคนอายุ 6 ขวบและเด็กผู้หญิงอายุ 4 ขวบในช่วงเวลาสั้น ๆ และถูกจับกุมในไม่ช้า เขาทำสิ่งที่แปลกให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเขาเช่นกัดพวกเขาหรือกับผู้หญิงคนนั้นกระทำการข่มขืนส่วนหนึ่งด้วยกิ่งไม้ เขาถ่ายอุจจาระถัดจากร่างของเหยื่อและโรยเหรียญหรือคลิปหนีบกระดาษเหนือซากศพ เขาถูกพบว่าบ้าและถูกขังอยู่ในสถานพยาบาลจิตเวช ที่นั่นเขาได้รับการบำบัดแปลก ๆ ทุกประเภทรวมถึงการได้รับ LSD ที่ทรงพลังและถูกขังอยู่ในห้องมืด ไม่มีอะไรทำงาน ในฐานะผู้ใหญ่เขาจะฆ่าอีกครั้งและนั่นเป็นเรื่องที่แปลกมากอีกครั้ง เขาสูงมากในรายการนี้เพียงเพราะมันเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นเด็กเมื่อเขาทำสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น

9. เบรนด้าแอนสเปนเซอร์
แน่นอนว่าเราสามารถรวมการยิงของโรงเรียนจำนวนมากในรายการนี้ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลบางอย่าง เราจะไม่เริ่มการอภิปรายปืนที่นี่หรือพูดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของโศกนาฏกรรมเหล่านั้น (นั่นเป็นการแสดงในตัวเอง) แต่เราจะพูดถึงเด็กหญิงอายุ 16 ปีคนนี้เพียงเพราะเธอไม่มีความสำนึกผิด ในปี 1979 เธอหยิบปืนไรเฟิลไปโรงเรียน เธอยิงเด็ก 8 คนและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีใครเสียชีวิต เธอยังฆ่าอาจารย์ใหญ่และผู้ปกครองด้วย เมื่อถูกถามว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้นเธอตอบว่า“ ฉันไม่ชอบวันจันทร์ สิ่งนี้เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน” เธอบอกว่าสนุกมากและเสริมว่าเด็ก ๆ “ ดูเหมือนฝูงวัวยืนอยู่รอบ ๆ มันเป็นการเลือกที่ง่ายมาก” ก่อนที่จะถูกคุมขังเธออาศัยอยู่กับความยากจนของพ่อที่ติดเหล้า มีคนกล่าวว่าเธอเป็นโรคจิตและเป็นโรคซึมเศร้า เธอยังอยู่ในคุกในวันนี้
8. Edmund Kemper
ตกลงดังนั้นคุณอาจรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์คนที่เหมาะกับคำอธิบายของอัจฉริยะนักฆ่า Kemper ฟังดูค่อนข้างฉลาดในการสัมภาษณ์จำนวนมากของเขาที่คุณเห็นบน YouTube เขาดูน่ากลัวด้วยขนาด 6 ฟุต 9 (206 ซม.) และ 300 ปอนด์ (136 กิโลกรัม) เราจะไม่พูดมากเกินไปเนื่องจากเราอาจนำเสนอเขาในรายการของเขา แต่เราจะบอกคุณว่าตอนอายุ 15 เขายิงและฆ่าปู่ย่าตายายของเขาทั้งสอง เขามักจะเป็นเด็กเข้มและไม่ใช่นักฆ่าแมวคนเดียวในรายการนี้ เมื่อถูกถามว่าทำไมเขาถึงฆ่าปู่ย่าตายายของเขาเขาตอบว่า“ เพื่อดูว่ามันเป็นอย่างไร” เขาได้รับการทดสอบหลายครั้งและพบว่าเขามีไอคิวสูงและเขาเป็นโรคจิตเภทแบบหวาดระแวง เขาอยู่ในสถาบันแห่งหนึ่งเนื่องจากมีความผิดทางด้านจิตใจจนกระทั่งอายุ 21 ปีเขาหายเป็นปกติหรือไม่? ไม่อย่างแน่นอน; เขาจะทำสิ่งที่เลวร้ายมาก ๆ

7. บริทที่ไม่มีชื่อ
เสียงนี้ดูเหมือนอะไรบางอย่างจากฉากเปิดตัวของหนังสยองขวัญ เด็กชายอายุ 13 ปีเดินเข้าไปในสถานีตำรวจที่ถือมีด เขาถูกปกคลุมด้วยเลือด ตำรวจตกใจเมื่อดูเด็กชายบอกว่าเขาเพิ่งฆ่าน้องชายของเขา เรื่องนี้เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรในปี 2544 ตำรวจวิ่งไปที่บ้านเพื่อพบกับแม่ที่ไม่รู้อะไรเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา พวกเขาทุกคนรีบขึ้นไปชั้นบนเพื่อพบกับทารกอายุหกเดือนที่ตายในเปลของมัน ทารกถูกแทง 17 ครั้งและมือข้างหนึ่งของเขาถูกตัด เมื่อถูกตำรวจสัมภาษณ์เด็กชายคนนั้นบอกว่าเขารู้ว่าเขากำลังทำอะไรเมื่อเขาได้รับมีดจากลิ้นชักครัว แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาจึงต้องการทำร้ายน้องชายของเขา เขาบอกตำรวจเมื่อพวกเขาถามเขาว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น "ฉันอยากอยู่กับแม่"

รายงานจากตำรวจระบุว่าเด็กชายคนนี้มีความสามารถร่วมกันเมื่อเขาก่ออาชญากรรมเพราะมันไม่เร็วเกินไป: "บาดแผลที่กระดูกสันหลังจะต้องใช้กำลังอย่างมีนัยสำคัญแม้ว่าจะมีมีดปลายแหลม - และ เขาไม่สามารถตัดมือโดยไม่มอง "รายงานกล่าว แต่เด็กผู้ชายคนนี้มีเพียงการฆาตกรรมเพราะสถานการณ์ของเขาแม่ของเขาได้ละเลยเขาอย่างรุนแรงและเธอถูกทำร้ายโดยพ่อที่ป่วยเป็นโรคทางจิตใจของเธอเอง พ่อแม่ของเธอถูกทารุณกรรมทางเพศด้วยดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ศาลได้ยินว่าเด็กชายได้รับความทุกข์ทรมานจาก "ปัญหาทางจิตที่ร้ายแรง" และยังมีอาการของโรค Aspergers อีกด้วยหนึ่งในสามของนักจิตวิทยาที่ตรวจสอบเด็กชายกล่าวว่า ” คำถามคือเราควรจะสงสารเขาไหม?

6. แมรี่เบลล์
ตอนนี้สำหรับความชั่วร้ายของผู้หญิงบางคนมากขึ้น เบลล์ทำข่าวในสหราชอาณาจักรหลังจากที่เธอถูกตัดสินลงโทษว่ามีคำมั่นที่จะตายทั้งสี่ขวบและสามปี 2511 ในนิวคาสเซิลอังกฤษ เธออาจจะอยู่ที่นี่พร้อมกับการฆาตกรรมสองครั้ง แต่บางทีเธออาจได้รับความเห็นอกเห็นใจจากสาธารณชนมากขึ้นเนื่องจากวัยเด็กของเธอ แม่ของเธอเป็นโสเภณีและต่อมากลายเป็นที่รู้กันว่าเบลล์ได้รับความทรมานจากการล่วงละเมิดทางเพศจากแม่ของเธอและลูกค้าของแม่ของเธออย่างต่อเนื่อง มันยิ่งแย่ลงไปอีก แม่จากนรกนี้ยังพยายามฆ่าแมรีหลายต่อหลายครั้งและทำให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอโยนแมรี่ออกไปนอกหน้าต่าง แต่แมรี่รอดชีวิต เธอกระทำการฆาตกรรมหนึ่งครั้งเมื่ออายุ 9 ปีและอีกคนเกิดขึ้นตอนอายุ 10 ปี
ในเหยื่อรายหนึ่งเธอแกะสลัก“ M” ไว้ในท้องของเขา หลังจากการฆาตกรรมเบลล์ถูกตัดสินจำคุกและเธอก็ออกจากคุกในปี 1980 เมื่อเธออายุ 23 นี่เร็วเกินไปสำหรับคนจำนวนมากที่ท้องอังกฤษและแท็บลอยด์ปีศาจเหล่านั้นบอกคนที่เบลล์อยู่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องถูกควบคุมตัวไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ฝูงชนมาจากเสาตะเกียง พล็อตหนาขึ้นหลายปีต่อมาเมื่อลูกสาววัย 14 ปีของเบลล์เริ่มได้รับการล่วงละเมิดเด็กผู้หญิงที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่ของเธอทำ ประชาชนก็โกรธที่เบลล์ทำเงินจากหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเธอ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กล่าวว่าเบลล์ไม่ได้เป็นอาชญากร แต่เป็น "เด็กที่ได้รับความเสียหายอย่างน่ากลัว" มันกลับกลายเป็นว่าแท็บลอยด์ที่โกรธแค้นอย่างมากเกี่ยวกับเบลล์ได้รับเงินสดสำหรับหนังสือเล่มนี้ทำให้เธอมีเงินมากขึ้นสำหรับเรื่องราวของเธอ

ฝันเห็นงูฝันเห็นงูสีขาวฝันเห็นงูเหลือมฝันเห็นงูเหลือมตัวใหญ่ฝันเห็นงูเหลือมสีทองฝันเห็นงูใหญ่
ฝันเห็นงูตัวใหญ่ฝันเห็นงูหลายตัวฝันเห็นงูลายฝันเห็นงูเขียวฝันเห็นงูเห่าฝันเห็นงูจงอาง
ฝันเห็นงูจงอางยักษ์ฝันเห็นงูจงอางเข้าบ้านฝันเห็นงูจงอางหลายตัวฝันเห็นงูจงอางกัดฝันเห็นงูจงอางเผือกฝันเห็นงูจงอางชูคอ
ฝันเห็นงูจงอางตัวใหญ่มากฝันเห็นงูจงอางตัวใหญ่สีดำฝันเห็นงูแมวเซาฝันเห็นงูหลามฝันเห็นงูตัวสีฟ้าฝันเห็นงูตัวสีดำ
ฝันเห็นงูตัวสีแดงฝันเห็นงูสีทองฝันเห็นงูหลายตัวฝันเห็นงูสองตัวฝันเห็นงูเผือกฝันเห็นงูหลาม
ฝันเห็นงูตัวใหญ่มากฝันเห็นงูตัวใหญ่สีดำฝันเห็นงูตัวใหญ่หลายตัวฝันเห็นพญานาคฝันเห็นพญานาคตัวใหญ่ฝันเห็นพญานาคสีทอง
ฝันเห็นพญานาคสีเขียวฝันเห็นพญานาคสีแดงฝันเห็นพญานาคเล่นน้ำฝันเห็นพญานาคไล่ตามฝันเห็นหงอนพญานาคฝันเห็นพญานาคสีเงิน
ฝันเห็นพญานาคหลายตัวฝันเห็นพญานาคพูดได้ฝันเห็นพญานาคพ่นน้ำฝันว่างูรัดฝันว่างูกัดฝันว่างูกัดขา
ฝันว่างูกัดเท้าฝันว่าฆ่างูฝันว่าตีงูฝันว่างูเลื้อยผ่านฝันว่างูกัดแขนฝันว่างูกัดนิ้ว
ฝันว่างูไล่กัดฝันว่างูฉกฝันว่ากินงูฝันว่าจับงูฝันว่างูเลื้อยขึ้นตัวฝันว่างูรัดขา
ฝันว่างูรัดแขนฝันว่างูรัดตัวฝันว่างูรัดขาขวาฝันว่างูรัดขาซ้ายฝันว่างูรัดแขนขวาฝันว่างูรัดแขนซ้าย


anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 22:29:22 น. »
5. Joshua Phillips
นี่คือเรื่องราวของโจชัวฟิลลิปส์ซึ่งเป็นเรื่องราวที่คุณอาจเคยได้ยินในทีวีหลายครั้ง ฟิลิปส์ถอดกระบอง Maddie Clifton เพื่อนบ้านอายุ 8 ปีจนตายในปี 2541 ฝ่ายค้นหาไปตามหาหญิงสาวและในงานปาร์ตี้คือฟิลิปส์เอง แต่มันเป็นแม่ของเขาที่ค้นพบความจริงที่น่าสยดสยองเมื่อเธอตรวจสอบเตียงน้ำที่รั่วในห้องนอนห้องใดห้องหนึ่ง ยัดไว้ข้างเตียงเป็นร่างที่ถูกทุบของคลิฟตัน เธอถูกตีด้วยไม้เบสบอลรัดคอและแทงซ้ำ ฟิลิปส์ถูกจับกุมในขณะที่โรงเรียนและเขายอมรับการฆาตกรรมทันที เขาได้รับชีวิตในคุกโดยไม่รอลงอาญา ฟิลิปส์พูดถึงอาชญากรรมของเขาว่า“ ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องการ ... โอกาสครั้งที่สอง บางทีฉันอาจสมควรตายในคุก” ดังนั้นอะไรที่ทำให้เขาทำชั่วนี้ บางคนตำหนิพ่อซึ่งเป็นแอลกอฮอล์รุนแรงผู้ปกครองบ้านด้วยกำปั้นเหล็ก ผู้กระทำความผิดต้องการโอกาสครั้งที่สองในชีวิตและได้ยื่นอุทธรณ์ประโยคของเขา หลายคนในอเมริกาคิดว่าเขาควรอยู่ในคุกตลอดชีวิตของเขา คนอื่นพูดถึงอาชญากรรมเช่นนี้ว่าควรได้รับโทษประหารชีวิต แต่มีคนที่เชื่อว่าการผ่อนปรนบางอย่างควรแสดงให้เห็นเมื่อเด็กเป็นผู้ทำความเสียหาย พ่อแม่ของเด็กผู้หญิงไม่คิดเช่นนั้นและพวกเขาเคยบอกกับสื่อมวลชนว่า: "เราเลี้ยงดูเด็กผู้หญิงในบ้านที่นับถือศาสนาคริสต์ซึ่งเราสวดอ้อนวอนทุกวันสิ่งที่เราไม่รู้ก็คือปีศาจตัวเองเคลื่อนเข้ามาขวางทาง สถานที่.”

4. Robert Thompson และ Jon Venables
นี่คืออาชญากรรมที่สั่นคลอนสหราชอาณาจักรในปี 1993 อาชญากรรมที่ไม่เคยลืมและยังคงแบ่งแยกระหว่างประชาชน เด็กชายที่ก่ออาชญากรรมนั้นมีเพียงสิบคนเท่านั้น หากคุณมาจากสหราชอาณาจักรและแก่พอที่จะจำคุณจะได้เห็นภาพกล้องวงจรปิดของเด็กชายสองคนนี้ที่รับเด็กอายุ 2 ขวบจากห้างสรรพสินค้า ต่อมามันกลับกลายเป็นว่าแผนแรกของพวกเขาคือการลักพาตัวเด็กแล้วพาเขาไปที่ถนนแล้วผลักเขาไว้ด้านหน้ารถ แต่พวกเขาไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาพาเด็กไปเที่ยวตลอดเวลาชนเขาและวางเขาไว้บนหัวของเขา ผู้คนเห็นพวกเขาพร้อมกับเด็กด้วย แต่เด็กชายบอกว่าเด็กเป็นน้องชายของพวกเขา จากนั้นพวกเขาพาเขาเข้าไปใกล้กับทางรถไฟที่พวกเขาเทสีลงในดวงตาของเด็กประทับบนเขาขว้างก้อนหินใส่เขาและใส่แบตเตอรี่ที่พวกเขาซื้อมาในปากของเด็กชาย

จากนั้นพวกเขาก็ฆ่าเขาด้วยการวางรางรถไฟหนักบนหัวของเขา พวกเขาออกจากการติดตามและหลังจากนั้นเขาก็ตัดครึ่งเมื่อรถไฟผ่าน อย่างที่คุณสามารถจินตนาการได้คนอังกฤษหลายคนต้องการเลือด ฆาตกรยังคงซ่อนตัวอยู่และประชาชนไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน พวกเขาได้รับการปล่อยตัวในปี 2544 แต่วันนี้ผู้คนยังถกเถียงกันว่าควรทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เด็กที่อายุน้อยรับผิดชอบหรือไม่ควรพิจารณาภูมิหลังที่ไม่เหมาะสมบ้างไหม? ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ชายทั้งสองอาศัยอยู่ภายใต้อัตลักษณ์ที่แตกต่างกันเพื่อปกป้องตัวเองจากความยุติธรรมบนท้องถนน Venables ถูกจับกุมในภายหลังหลายครั้งเพื่อดาวน์โหลดและแจกจ่ายภาพอนาจารของเด็ก ตอนนี้เขาอยู่ในคุกเพราะความผิดนั้น Robert Thompson ที่สื่อกล่าวว่าเป็นผู้นำในอาชญากรรมที่โหดร้ายไม่ได้โกรธเคืองอีก เป็นที่เชื่อกันว่าเขาให้การศึกษาตัวเองและกำลังตั้งรกรากอยู่ในความสัมพันธ์ที่มั่นคง ชาวอังกฤษหลายคนเชื่อว่าเขาไม่สมควรได้รับความสุขแบบนั้น

3. Eric Smith
สมิ ธ ไม่ได้รับการเริ่มต้นที่ดีในชีวิตเช่นกัน มันคิดว่ายาเสพติดโรคลมชักที่แม่ของเขาใช้ในขณะที่เธอกำลังตั้งครรภ์กับเขาอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เด็กคนนี้มีความรุนแรงอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดวันหนึ่งเมื่อเขาขี่จักรยานกลับจากค่ายฤดูร้อนในเมืองสเตเบนเท็นนิวยอร์กในปี 1993 ในขณะนั้นสมิ ธ มีอายุเพียง 13 ปี เขาเจอเด็กอายุ 4 ขวบในสวนและขอให้เด็ก ๆ เดินเข้าไปในบริเวณที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ สมิ ธ บีบคอเด็กจนตาย แต่ความชั่วร้ายไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น จากนั้นเขาก็ข่มขืนเด็กชายที่มีกิ่งไม้และวางก้อนหินก้อนใหญ่บนหัวของเด็กชาย

หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นแบบนี้:“ จากนั้นเขาก็ยกก้อนหินขนาด 26 ปอนด์ขึ้นไปในอากาศแล้วทุบมันหลายครั้งกับหัวของเด็กชาย เขาหยิบหินก้อนอื่นแล้วเหวี่ยงมันลงในหน้าอกของเด็กชาย เขาเท Kool-Aid จากกล่องอาหารกลางวันบนร่างกายและดึงกางเกงขาสั้นของเด็กชายลงเพื่อแทงไส้ตรงสี่นิ้วของเขาขึ้นมา” อย่างที่คุณจินตนาการได้อเมริกาน่าตกใจ สมิ ธ เข้ารับการตรวจทางจิตวิทยาทุกประเภทและมีคนกล่าวว่าเขามีสิ่งที่เรียกว่า "ความผิดปกติของการระเบิดอย่างต่อเนื่อง" ซึ่งหมายความว่าบุคคลสามารถบินเข้าสู่ความโกรธแค้นที่รุนแรงโดยไม่มีเหตุผล ขณะที่อยู่ในคุกสมิ ธ เขียนถึงครอบครัวของเหยื่อโดยกล่าวว่า“ ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะเปลี่ยนสถานที่ด้วยปั้นจั่นขนาดใหญ่และทนต่อความเจ็บปวดทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขา ถ้านั่นหมายความว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ฉันจะเปลี่ยนสถานที่ แต่ฉันทำไม่ได้” ตอนนี้เขายังอยู่ในคุกและคนอเมริกันจำนวนมากคิดว่าเขาควรจะอยู่ที่นั่นตลอดไป

2. Amarjeet Sada
เด็กชายอินเดียอายุน้อยคนนี้ถูกกล่าวว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดในโลก แปดปีมาจาก Begusarai ในรัฐพิหาร ในปี 2549 เขาถูกตัดสินว่าฆ่าทารกสามคนรวมถึงน้องสาวและลูกพี่ลูกน้องของเขา เด็กทารกอายุไม่กี่เดือนถูกรัดคอหรือถูกทุบด้วยหิน เขาถูกเรียกว่าเป็นผู้ซาดิสม์ แต่นักจิตวิทยาบอกว่าเขาไม่รู้ผิดและถูกกล่าวว่ามี "พฤติกรรมผิดปกติ" เมื่อเขายังเด็กเขาไม่สามารถเข้าคุก แต่คิดว่าเขาใช้เวลาประมาณสามปีในสถานพยาบาลจิตเวชและกลับบ้านด้วย เขาไม่เคยปฏิเสธในสิ่งที่เขาทำบอกตำรวจถึงการฆาตกรรมครั้งหนึ่งว่า "เธอนอนหลับอยู่ในโรงเรียนฉันเอาเธอไปเล็กน้อยแล้วฆ่าเธอด้วยหินและฝังเธอไว้"

ดังที่เรากล่าวไว้ในตอนเริ่มต้นของการแสดงบางครั้งเด็กที่มีอายุมากกว่าและได้รับความเดือดร้อนจากการถูกทารุณกรรมอาจก่ออาชญากรรมที่รุนแรงเช่นนี้ แต่ในกรณีของ Sada นักจิตวิทยาได้นิ่งงันตั้งแต่เขายังเด็ก ศาสตราจารย์ด้านอาชญวิทยาที่มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมซิตี้กล่าวว่า“ เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดด้วยความมั่นใจว่าบุคคลนั้นเกิดมาเป็นฆาตกรหรือกลายเป็นฆาตกร บางทีหนุ่มสะดาไม่ได้ฆ่าเพราะความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมบางทีเขาอาจเป็นเพียงนักฆ่าที่เกิดตามธรรมชาติ บางทีซาดิสม์ก็ไหลผ่านเลือดของบางคน
1. Jesse Harding Pomeroy
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งจากรัฐแมสซาชูเซตส์ซึ่งเกิดเมื่อปี 1859 เขาเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเด็กที่ชั่วร้ายที่สุดของอเมริกาและดูเหมือนว่าสหรัฐอเมริกาจะมีผู้ผูกขาดฆาตกรต่อเนื่องกันอยู่หลายคนเราอาจเรียกเขาว่าโลก เด็กที่เลวร้ายที่สุด เรื่องราวต่างกันไปตามจำนวนเหยื่อที่เขามี แต่เขาทรมานเด็กอย่างไร้ความปราณีที่อายุ 4-8 ปีเมื่อเขาอายุ 12-14 ปี เครื่องมือในการค้าขายของเขาคือมีดไม้หมุดและเชือก ตามเรื่องราวใน Gizmodo” เขาฆ่าเด็กสองคนและทำร้ายอีกอย่างน้อยเจ็ดคนในอาชีพอาชญากรที่แทบจะทอดปีเดียว บางครั้งเขาก็โจมตีเด็กผู้ชายสัปดาห์ละครั้ง” เขาเป็นคนซาดิสม์เช่นกัน

มีรายงานฉบับหนึ่งที่บอกว่าเขาผูกเด็กไว้กับคานและตีพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะหมดสติ กับเด็กคนอื่นเขาวางหมุดไว้ในร่างกายของพวกเขาและทำให้ใบหน้าของพวกเขาขาดหายด้วยมีด สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในรายการนี้คือดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขอย่างมากในงานของเขาฟังดูเหมือนตัวละครจากนวนิยาย Marquis de Sade (นั่นคือที่มาของชื่อ 'ซาดิสต์' มาจากหนังสือของเขา ไม่ใช่เพื่อคนใจเสาะ) มีการกล่าวว่าเจสซีรักการกระทำของซาดิสม์ จากรายงานและการสัมภาษณ์ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเขาเมื่อเจสซีกำลังตีและแทงพวกเขาเขาจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ตามที่แม่ของเขาเองเขามีการศึกษาปกติ พวกเขามีเงินและพ่อแม่ของเขาใจดีกับเขา

เธอยังบอกด้วยว่าเขาเป็นเด็กที่ป่วยและรอบตัวเขาเป็นความมืด เรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันในช่วงต้นเนื่องจากมีรายงานว่าเขามีสุนัขรัดคอและแมวถูกแทง หลังจากการทรมานครั้งแรกของเขาเขาถูกจับและถูกส่งตัวไปยังเรือนจำปฏิรูป แต่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวหลังจากผ่านไปหนึ่งปี ต่อมาพบเด็กสองคนถูกแทงและทรมาน…และตายไปแล้ว หนึ่งตอนเกือบ ใช่มันคือเจส เขาถูกตัดสินลงโทษในข้อหาฆาตกรรมครั้งแรกและตัดสินให้แขวน แต่เมื่อตอนเป็นเด็กสิ่งนี้ไม่ได้ผลดีกับบางคน ประโยคของเขาถูกลดลงจนมีชีวิตอยู่ในห้องขังเดี่ยว เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามหลบหนีหลายครั้งแล้วก็เลิก เป็นเวลาหลายทศวรรษที่มีคนโดดเดี่ยวเขาบอกว่าเขาอ่านหนังสือ 8,000 เล่มและกลายเป็นภาษาต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยรวมแล้ว 'Boston Boy Fiend' ให้บริการ 59 ปี เขาเสียชีวิตเมื่ออายุ 72 ในปี 1932 ดังนั้นคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับกรณีเหล่านี้ทั้งหมด เราควรแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เด็ก ๆ ที่ฆ่า? ภูมิหลังของพวกเขาลดน้อยลงในสิ่งที่ทำหรือไม่? บางคนเกิดมาไม่ดีหรือเลี้ยงดูทำงานกับธรรมชาติอยู่เสมอหรือไม่? แจ้งให้เราทราบความคิดเห็นของคุณในความคิดเห็น! นอกจากนี้โปรดตรวจสอบวิดีโออื่น ๆ ของเราที่เรียกว่าฆาตกรต่อเนื่องที่น่าอับอายที่สุด - ทำไมเขาถึงไม่เคยเจอ!

ฝันเห็นงูฝันเห็นงูสีขาวฝันเห็นงูเหลือมฝันเห็นงูเหลือมตัวใหญ่ฝันเห็นงูเหลือมสีทองฝันเห็นงูใหญ่
ฝันเห็นงูตัวใหญ่ฝันเห็นงูหลายตัวฝันเห็นงูลายฝันเห็นงูเขียวฝันเห็นงูเห่าฝันเห็นงูจงอาง
ฝันเห็นงูจงอางยักษ์ฝันเห็นงูจงอางเข้าบ้านฝันเห็นงูจงอางหลายตัวฝันเห็นงูจงอางกัดฝันเห็นงูจงอางเผือกฝันเห็นงูจงอางชูคอ
ฝันเห็นงูจงอางตัวใหญ่มากฝันเห็นงูจงอางตัวใหญ่สีดำฝันเห็นงูแมวเซาฝันเห็นงูหลามฝันเห็นงูตัวสีฟ้าฝันเห็นงูตัวสีดำ
ฝันเห็นงูตัวสีแดงฝันเห็นงูสีทองฝันเห็นงูหลายตัวฝันเห็นงูสองตัวฝันเห็นงูเผือกฝันเห็นงูหลาม
ฝันเห็นงูตัวใหญ่มากฝันเห็นงูตัวใหญ่สีดำฝันเห็นงูตัวใหญ่หลายตัวฝันเห็นพญานาคฝันเห็นพญานาคตัวใหญ่ฝันเห็นพญานาคสีทอง
ฝันเห็นพญานาคสีเขียวฝันเห็นพญานาคสีแดงฝันเห็นพญานาคเล่นน้ำฝันเห็นพญานาคไล่ตามฝันเห็นหงอนพญานาคฝันเห็นพญานาคสีเงิน
ฝันเห็นพญานาคหลายตัวฝันเห็นพญานาคพูดได้ฝันเห็นพญานาคพ่นน้ำฝันว่างูรัดฝันว่างูกัดฝันว่างูกัดขา
ฝันว่างูกัดเท้าฝันว่าฆ่างูฝันว่าตีงูฝันว่างูเลื้อยผ่านฝันว่างูกัดแขนฝันว่างูกัดนิ้ว
ฝันว่างูไล่กัดฝันว่างูฉกฝันว่ากินงูฝันว่าจับงูฝันว่างูเลื้อยขึ้นตัวฝันว่างูรัดขา
ฝันว่างูรัดแขนฝันว่างูรัดตัวฝันว่างูรัดขาขวาฝันว่างูรัดขาซ้ายฝันว่างูรัดแขนขวาฝันว่างูรัดแขนซ้าย


anyaha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
Re: 5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 22:30:11 น. »
10 ตำนานของเมืองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความจริง
ตำนานเมืองควรจะเป็นเรื่องสมมติที่เราอ่านเพื่อความบันเทิงในขณะที่ตำนานเมืองเหล่านี้อาจสร้างแรงบันดาลใจฝัน

ร้ายไม่กี่แห่งในตอนท้ายของวัน เรารู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้ไม่จริง แต่มีคนไม่กี่คนที่ได้รับการดลใจจากเรื่องราวเหล่านี้และเสี่ยงต่อเสรีภาพในการแสดงความทุ่มเทของพวกเขา
1. ริ้วรอยตัวตลก
ตำนานในเมืองรอบตัวตลกนั้นมีค่าน้อยกว่าปกติพวกเขามักจะเกี่ยวข้องกับคนที่ลงท่อระบายน้ำที่มีความฝันที่ไม่ดีหรืออะไรที่จะทำให้คุณต้องเข้ารับการบำบัดในอีก 20 ปี เว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยตำนานเมืองที่เกี่ยวข้องกับตัวตลกที่มีแนวโน้มที่จะรับแรงผลักดันจากโซ

เชียลมีเดียจากนั้นเรื่องราวเหล่านี้ก็จบลงด้วยการเลียนแบบเหตุการณ์เลียนแบบซึ่งจบลงที่ข่าวอีกครั้งดังนั้นรอบที่ไม่มีสิ้นสุดยังคงดำเนินต่อไป ตัวอย่างเช่นผู้ปกครองในเซาท์ฟลอริดากำลังจ้างตัวตลกด้วยชื่อของริ้วรอยเพื่อซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนของเด็ก ๆ และ

ทำให้พวกเขาหวาดกลัวในตอนกลางคืน ทำไมในโลกที่พ่อแม่จะทำเช่นนี้กับลูก? ดีที่จะทำให้พวกเขากลัวพฤติกรรมอย่างถูกต้องเพราะกล้องพี่เลี้ยงบันทึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นวิดีโอเริ่มปรากฏบนพื้นผิวของริ้วรอยที่ปรากฏอยู่ใต้เตียงและวางตุ๊กตาสัตว์ไว้ถัดจากเด็กก่อน

ที่จะปิดกล้องเพื่อระบายความหายนะ จาก. จริงอยู่ที่ว่านี่ไม่ใช่อาชญากรรม แต่เป็นไปได้ว่าผู้ปกครองเหล่านี้อาจได้รับการเยี่ยมเยียนจากบริการสังคม บางทีแทนที่จะเก็บออมเพื่อกองทุนวิทยาลัยและพวกเขาจำเป็นต้องวางกองทุนบำบัดสำหรับลูกของพวกเขา

2. เพื่อนทางจดหมาย
อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่มั่นคงที่สุดที่สามารถพบได้คือเมื่อพวกเขาได้รับรูปภาพของตัวเองในจดหมายจากแหล่งที่ไม่รู้จักมันจะบังคับให้คุณตระหนักว่าคุณกำลังดูอยู่และไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำได้ มันบังคับให้คุณตระหนักว่าไม่ว่าคุณจะป้องกันอย่างไรคุณคิดว่าคุณ

เป็นคุณยังคงมีความเสี่ยง เรื่องราวที่เรียกว่า Penpal ได้เข้ามาในเว็บไซต์ Creepypasta มันเกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนที่พวกเขาปล่อยลูกโป่งเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถได้รับ Penpal หรือไม่ เด็กชายลง

เอยด้วยการไม่ได้รับจดหมาย แต่เขากลับได้รูปโพลารอยด์จำนวนมาก ในขั้นต้นพวกเขาพร่ามัว แต่เมื่อเขาดูรูปภาพทั้งหมดที่เขารู้ว่าเขาอยู่ในทุกรูป ดังนั้นมันจึงทำให้ทุกอย่างไม่มั่นคงมากขึ้นเมื่อมีเรื่องจริงออกมาจากระยะไกลคล้ายกับตำนานในเมืองที่ดูเหมือน

จะเกิดขึ้น มีเรื่องราวในคอนเนตทิคัตของผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อจอห์นบีนที่ติดตามนักเรียนของเขาไปที่วอลมาร์และถ่ายภาพ ในนอร์ ธ แคโรไลนาอาสาสมัครของโรงเรียนแห่งปีประสบปัญหาในการถ่ายรูปเด็กผู้หญิงในโรงเรียนประถมโดยไม่ได้รับอนุญาต วอ

ลเตอร์ชอร์จบลงด้วยการอ้อนวอนว่ามีความผิดในข้อหาที่น่ากลัว

3. ชายเลนเดอร์
การแจ้งเตือนผู้สปอยเลอร์: นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่คุณได้ยินเกี่ยวกับชายเลนเดอร์มันช่างน่าประหลาดใจที่ตัวละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับอาชญากรรมที่ค่อนข้างรุนแรงเราจะเริ่มต้นด้วยอาชญากรรมที่โด่งดังที่สุด ห้องน้ำในสวนสาธารณะและ

ดำเนินการต่อเพื่อทำเธอเหมือน Julius Caesar อย่างน่าอัศจรรย์หญิงสาวที่รอดชีวิต เหตุใดเด็กหญิงทั้งสองจึงทำผิดอย่างชั่วร้ายที่พวกเขาต้องการเสียสละเพื่อนของพวกเขาให้กับชายเลนเดอร์เพื่อพวกเขาจะได้อยู่กับเขาในคฤหาสน์ของเขา

อย่างที่เรารู้กันว่าสเลนเดอร์แมนไม่ใช่ของจริงและเขาก็มีพื้นฐานมาจากมส์จาก Creepypasta คฤหาสน์นั้นมาจากวิดีโอเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Slenderman ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเด็กหญิงอายุสิบสามคนนั้นไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดใน

โลกเสมอไป แต่พวกเขาคิดว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาจะหนีจากการกระทำที่แย่ขนาดนั้นหรือ วัยรุ่นคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในโรงพยาบาลโรคจิต หากเธอใจง่ายที่จะทำสิ่งนี้กับใครบางคนเพื่อตำนานเมืองนั่นอาจเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

4. หัวเราะแจ็ค
คุณรู้ไหมว่าอะไรจะยกระดับจิตวิญญาณของเรา มาพูดถึงตัวตลกกันอีกแล้ว! เย้!! เรื่องราวของ Laughing Jack ไม่ได้มีไว้สำหรับคนใจอ่อน การหัวเราะแจ็คนั้นเป็นเพื่อนในจินตนาการ ตรงข้ามกับใครดี เขาแทรกซึมเข้าไปในความฝันของเด็ก ๆ

อย่าง Freddy Krueger และแทนที่อวัยวะของพวกเขาด้วยลูกกวาด ไม่ดีเหรอ? อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าคุณสามารถอ่านเรื่องราวออนไลน์และสามารถบอกได้ทันทีว่ามันเป็นเพียงเรื่องราวที่น่ากลัวและตำนานเมือง แต่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งคิดว่า

การหัวเราะแจ็คเป็นเรื่องจริง เห็นได้ชัดว่าแทนที่จะเต็มไปด้วยขนมหวานแจ็คบอกให้ผู้หญิงคนนี้จบชีวิตของแม่เลี้ยงของเธออายุสิบสองปีไม่เพียง แต่แม่เลี้ยงของเธอเข้ามาเท่านั้น ในที่สุดเด็กก็ยอมรับว่าเธอก่ออาชญากรรม และในที่สุดเธอก็ประกาศว่าไร้ความ

สามารถเกินกว่าจะรับการพิจารณาคดีได้ นั่นหมายความว่าเธอจะใช้เวลาที่เหลือของวัยรุ่นของเธอในแผนกจิต
5. เดินแซม
Walking Sam เป็นเอนทิตีที่คล้ายกันกับชายเลนเดอร์ผู้ขับรถวัยรุ่นจากเผ่า Sioux ในเซาท์ดาโคตาเพื่อทำร้ายตัวเอง โดยพื้นฐานแล้วตำนานเมืองมีอยู่สองสามรูปแบบคือ Walking Sam คือเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวม

วิญญาณหรือขับคนบ้าเพราะเขาดูน่ากลัว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดผู้คนหลายร้อยคนที่มีอายุระหว่าง 12 ถึง 24 ปีพยายามที่จะจบชีวิตของพวกเขา ชนเผ่าในท้องถิ่นยังต้องลบเสียงรบกวนที่ถูกวางไว้ที่ Pine Ridge Indian Reserve จาก

ร้อยคนเหล่านั้นประมาณเก้าคนประสบความสำเร็จอย่างน่าเศร้าเมื่อพวกเขาพยายาม ในขณะที่หนึ่งสามารถพูดได้ว่าผู้เขียนเรื่องราวของ Walking Sam เป็นนักเล่าเรื่องที่เหลือเชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าตกใจว่าคนรุ่นต่อ ๆ แต่เนื่องจากเป็นอิน

เทอร์เน็ตและผู้คนจำนวนมากไม่รู้วิธีแยกแยะข้อเท็จจริงและนิยาย เป็นไปได้ทั้งหมดที่ผู้คนคิดว่านี่เป็นเรื่องจริง
6. การโทร
ตำนานเมืองเป็นเช่นนี้ มีพี่เลี้ยงทำงานตอนดึก เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้โทรลึกลับที่กล่าวว่า "คุณตรวจสอบเด็ก ๆ หรือยัง" อาจมีลมหายใจหนักสำหรับการโทรไม่กี่ครั้งและแน่นอนว่าผู้เลี้ยงจะกลัว เมื่อเธอโทรหาตำรวจพวกเขาติดตามการโทรและสิ่งที่สำคัญคือการ

โทรมาจากภายในบ้าน ตำนานเมืองนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคดีที่ยังไม่คลี่คลายจากปี 1950 ในรัฐมิสซูรี่ เกรด 8 ชื่อ Janett Christman เสียชีวิตคืนหนึ่งในขณะที่เธอกำลังดูแลเด็กอายุสามขวบ เธอถูกค้นพบในเวลา 13.00 น. สายเกินไป

มีการโทรมาที่บ้าน แต่ไม่เหมือนกับตำนานในเมืองตำรวจไม่สามารถติดตามพวกเขาได้ เด็กชายเจเน็ตรับดูแลเด็กก็รู้สึกปลอดภัย เรื่องนี้มักจะถูกเล่าขานในปาร์ตี้ที่หลับใหล บางคนถึงกับพยายามเลียนแบบตำนานเมืองเท่านั้นที่จะเข้าร่วมกับตำรวจในเวลาต่อมา

7. การส่งข้อความคงที่
เราทุกคนได้ยินตำนานเมืองอันเป็นสัญลักษณ์ที่ชายคนหนึ่งได้รับข้อความ Facebook จากแฟนสาวที่ผ่านมายาวนานของเขา มันทำให้เราทุกคนสงสัยว่าแฟนสาวยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ เธอกลายเป็นบอทหรือเธอเป็นผีที่ยังคงตรวจสอบสื่อสังคมของเธอ

จากนอกหลุมศพ อย่างไรก็ตามชายคนหนึ่งดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจจากการส่งข้อความผีและตัดสินใจที่จะใช้มันเพื่อพยายามหนีจากอาชญากรรมที่ชั่วร้าย ทอดด์ Colhab ลักพาตัวผู้หญิงชื่อเคย์ล่าบราวน์เช่นเดียวกับแฟนชาร์ลส์คาร์เวอร์ เพื่อให้ดู

เหมือนว่าเคย์ล่าและชาร์ลส์เป็นคนดีและมีความสุขกับชีวิตทอดด์ได้โพสต์บนหน้า Facebook ของพวกเขา มีการอัพเดทสถานะและทุกอย่าง อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ค้นหาทรัพย์สินของทอดด์และพร้อมที่จะรับหมายจับค้นหา พวกเขาผ่านภาชนะ

โลหะและเคย์ล่าส่งเสียงดัง เธอถูกพบอยู่ในภาชนะที่มีปลอกคอรอบคอของเธอและถูกล่ามโซ่เหมือนสุนัข Sadly Charles ไม่รอดชีวิตจากอาชญากรรม

8. Pope Lick Monster
นี่อาจแบ่งได้ดีกว่าในคนที่ทำสิ่งที่โง่สำหรับตำนานเมือง Pope Lick Monster เป็นสัตว์ลูกผสมของมนุษย์แพะที่อาศัยอยู่บนสะพานเหนือรางรถไฟ ในตำนานเล่าว่าสัตว์ประหลาดสาธารณะจะสะกดจิตเหยื่อของมันและดึงพวกเขาไปยังราง

รถไฟที่พวกเขาจะโดนรถชน หากคุณคิดว่ามีคนไม่อยากรู้อยากเห็นให้ลองคิดดูอีกครั้ง มีคนจำนวนมากที่ต้องสูญเสียชีวิตโดยมองหา Pope Lick Monster ส่วนใหญ่จบลงด้วยการรถไฟขบวนที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นในกรณีนี้สิ่งนี้จะเป็นความ

จริงมากกว่าตำนานเมืองหรือไม่? ตำรวจท้องที่ในเมืองหลุยส์วิลล์เคนตักกี้ต้องออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะโดยประกาศว่าใครก็ตามที่กำลังมองหาพระสันตะปาปาลิกมอนสเตอร์จะถูกบุกรุกรวมทั้งในสหรัฐอเมริกาที่หลงทางรถไฟถือเป็นความผิดของรัฐบาลกลาง

และได้รับค่าใช้จ่ายจากการก่อการร้าย ดังนั้นมันจึงคุ้มค่าที่จะมองหาตำนานเมืองที่น่ากลัวนี้หรือไม่?
9. อย่าเปิดไฟ
หนึ่งในตำนานของเมืองที่น่ากลัวที่สุดคือคนในห้องนอนของพวกเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาเห็นข้อความที่น่าสยดสยองเขียนด้วยของเหลวในร่างกายที่บอกว่า "คุณดีใจที่คุณไม่ได้เปิดไฟไหม?" มันเป็นเรื่องราวที่ให้ฝัน

ร้ายแก่เราและเป็นแรงบันดาลใจให้เราตรวจสอบทุกซอกทุกมุมในบ้านก่อนนอน แต่เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นลองด้วยตัวเอง ในปี 2559 เด็กสาววัยรุ่นจากอังกฤษได้รับข้อความ ที่กล่าวว่า "ฉันดูคุณ" เธอยังมีข้อความที่บอกว่าเขาจะจบชีวิตนอกหน้าต่าง

ห้องนอนของเธอ วัยรุ่นคลานออกมาจนเธอตัดสินใจที่จะนอนกับแม่ของเธอ เธอไม่ได้จริงจังกับผู้ส่งเมื่อเขาบอกว่าเขาอยู่ในบ้าน แต่เช้าวันรุ่งขึ้นผู้ส่งถูกค้นพบว่าอยู่ในบ้าน เขากำลังนอนหลับอยู่ใต้เตียงของเธอ

10. Slenderman ... อีกครั้ง
ดูเหมือนว่าอาชญากรรมที่น่ากลัวที่สุดบางเรื่องได้รับแรงบันดาลใจจากชายเลนเดอร์คนเดียวเท่านั้น ด้วยบุคคลที่สูงและไร้รูปร่างของเขาคุณจะคิดว่าผู้คนจะรู้ว่าเขาไม่ใช่ของจริงหรือพวกเขามุ่งหน้าไปยังเนินเขาโดยอัตโนมัติ มีคนมากมายที่ยอมเสี่ยงต่อเสรีภาพ

และความปลอดภัยส่วนบุคคลเพื่อเห็นแก่ตำนานเมือง ในปี 2014 เด็กหญิงอายุ 13 ปีได้ยินแม่ของเธอด้วยมีดซ้ำ ๆ แม่รอดชีวิตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นเด็กหญิงอายุ 14 ปีจากฟลอริด้าพยายามเผาบ้านของเธอเพื่อชายเลนเดอร์ หากคุณคิดว่า

Slender Man เป็นเพียงแค่ตีวัยรุ่นหญิงเขายังได้แรงบันดาลใจชายคนหนึ่งชื่อเจเร็ดมิลเลอร์ในการโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนและพลเรือนก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นักวิจัยพบว่าเขาชอบแต่งตัวชายเลนเดอร์เพื่อความสนุก


เพจรวมเรื่องสยองขวัญ

เรื่องผี เรื่องน่ากลัว

คดีฆาตกรรมโหด ฆาตกรต่อเนื่องที่อำมหิตที่สุดในโลก

เรื่องเล่าผีน่ากลัวสยองขวัญ







เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา
อาชญากรรมดำดิน เอล ชาโป กุซมัน
25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์
อัจฉริยะจอมโฉดมือระเบิดต่อเนื่องยูนาบอมเบอร์
เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ
รวมตำนานผีนานาชาติและปิศาจทั่วโลก
5 ฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงลอยนวลอยู่
5 ผีปีศาจที่มาเยือนยามค่ำคืน
ตำนานผีญี่ปุ่น