ผู้เขียน หัวข้อ: เพิ่มศักยภาพในการทำการตลาดยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI Marketing  (อ่าน 394 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 361
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง
    • ดูรายละเอียด
ในอดีตการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้กับธุรกิจอาจจะดูเป็นเรื่องที่ยังไกลตัวอยู่มาก แต่ในปัจจุบันด้วยการพัฒนา และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้การนำ AI เข้ามาใช้ในธุรกิจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป AI ได้แทรกซึมอยู่ในบริการต่างๆ ของธุรกิจที่เราได้ใช้บริการกันอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่การสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน การถ่ายรูป และอัพโหลดเอกสารเข้าไปในเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน การพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่อาจจะเป็นแชทบอท เรียกได้ว่า AI ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา และพบเจอได้ทั่วไป เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ว่ากลไกเหล่านี้มี AI เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังสำคัญ

AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับหน้าที่งานหลากหลายฟังก์ชันในภาคธุรกิจ ตั้งแต่การบัญชี และการเงิน การผลิต การให้บริการลูกค้า จนถึงการตลาด ซึ่งการทำการตลาดยุคใหม่นั้นมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยที่ทุกธุรกิจต้องไปอยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ทำให้ต้องอาศัยตัวช่วยที่จะทำให้การวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า  ความต้องการของตลาด การประมวลผลข้อมูล การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อช่วยโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนให้การทำตลาดในปัจจุบันมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น


การนำ AI ไปใช้ใน Marketing

AI Marketing คืออะไร

AI Marketing คือการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการตัดสินใจได้แบบอัตโนมัติโดยพิจารณาจากการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกค้า หรือเทรนด์ของเศรษฐกิจที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำการตลาด AI มักจะถูกนำมาใช้การทำตลาดในยุคปัจจุบันที่ความเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญ เครื่องมือ AI ใช้ข้อมูล และโปรไฟล์ของลูกค้าเพื่อที่จะเรียนรู้วิธีการสื่อสารกับลูกค้าได้ดีที่สุด หลังจากนั้นจึงส่งข้อความที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายในเวลาที่เหมาะสมโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากทีมการตลาด เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพที่สูงที่สุด สำหรับนักการตลาดยุคใหม่ การนำ AI มาใช้งานนั้นเพื่อช่วยเสริมทีมการตลาด หรือเพื่อทำหน้าที่เชิงกลยุทธ์บางอย่างที่อาจจะใช้คนในการทำงานน้อยลงได้

ตัวอย่างการนำ AI Marketing มาใช้งาน ได้แก่

    การวิเคราะห์ข้อมูล
    การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural language processing)
    การซื้อสื่อ
    การตัดสินใจแบบอัตโนมัติ
    การสร้างคอนเทนต์
    การทำ Personalization แบบเรียลไทม์


องค์ประกอบที่สำคัญของ AI Marketing

Harvard business review ได้แบ่งการทำงานของ AI Marketing ออกเป็น 2 มิติ ได้แก่ ระดับของความอัจฉริยะ และในมิติของการเป็นโปรแกรมแบบ Stand-alone หรือเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม บางเทคโนโลยี เช่น แชทบอท หรือระบบการให้คำแนะนำ (Recommendation engine) สามารถจัดอยู่ในหมวดหมู่ใดก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับวิธีการนำไปใช้งานภายในแต่ละแอปพลิเคชันที่จะเป็นตัวกำหนดการจัดประเภท

ทำความรู้จักกับระดับความอัจฉริยะของ AI

   
Task automation

การนำ AI ไปใช้งานในรูปแบบ Task automation นั้น AI จะจัดการทำงานที่ต้องทำซ้ำไปมา เป็นหน้าที่งานที่มีขั้นตอนที่ชัดเจน ซึ่งไม่ได้จำเป็นต้องใช้ระดับความอัจฉริยะมากนัก โดย AI ถูกออกแบบมาให้ทำงานตามกฎ หรือดำเนินการตามลำดับของขั้นตอนการทำงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่จะไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนได้ เช่น คำขอของลูกค้าที่มีความละเอียด และซับซ้อน ตัวอย่างของการทำงานรูปแบบนี้ เช่น ระบบสามารถส่งอีเมลต้อนรับลูกค้าใหม่แต่ละคนได้แบบอัตโนมัติ แชทบอทที่สามารถสามารถเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียได้ โดยที่แชทบอทเหล่านี้สามารถให้ความช่วยเหลือลูกค้าในเบื้องต้นได้ โดยนำคำถาม หรือคำร้องขอของลูกค้าไปสู่โครงสร้างการตัดสินใจที่ได้กำหนดไว้ แต่แชทบอทในรูปแบบนี้ไม่สามารถที่จะแยกแยะเจตนาของลูกค้าได้ ไม่สามารถที่จะให้คำตอบแบบรายบุคคล หรือเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแต่ละครั้งได้

   
Machine learning

อัลกอริทึมเหล่านี้ถูกเทรนโดยใช้ข้อมูลจำนวนมากคาดการณ์ และตัดสินใจในเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน ตัวอย่างเช่น โมเดลสามารถจดจำภาพ ถอดรหัสข้อความ จัดกลุ่มลูกค้า และคาดการณ์ได้ว่าลูกค้าจะตอบสนองกับเรื่องต่างๆ อย่างไร เช่น การจัดโปรโมชั่น เทคโนโลยี Machine learning ได้กระตุ้นให้เกิดเป็นโปรแกรมการซื้อโฆษณาออนไลน์ ระบบให้คำแนะนำสินค้าในแพลตฟอร์ม E-commerce และโมเดลในการแนวโน้มของการขายในระบบ CRM โดยที่ตัวแปรที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยี Deep learning เป็นเทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดใน AI และและกำลังกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในด้านการตลาดอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจว่าการนำ Machine learning มาใช้งานในปัจจุบันนั้นสามารถใช้ได้กับงานบางอย่าง และจำเป็นต้องเทรนโมเดลด้วยข้อมูลจำนวนมาก


มารู้จักกับการนำไปใช้งานแบบ Stand-alone กับแบบ Integrated AI กันบ้าง

   
Stand-alone

เป็นโปรแกรม AI ที่แบ่งอย่างชัดเจน หรือสามารถแยกออกได้ โดยที่โปรแกรม AI แบบ Stand-alone นั้นจะถูกแยกออกจากช่องทางหลักที่ลูกค้าใช้ในการหาข้อมูล หรือซื้อสินค้า รวมทั้งการติดต่อสอบถามข้อมูล หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือลูกค้าหรือพนักงานจะต้องใช้ช่องทางพิเศษนอกเหนือจากช่องทางการติดต่อหลักเพื่อใช้ AI

   
การเชื่อมต่อการใช้งาน (Integrated AI)

เป็นรูปแบบการใช้งาน AI ที่ฝังอยู่ในโปรแกรมเดิมที่มีอยู่ แอปพลิเคชัน AI เหล่านี้มักจะมองเห็นได้น้อยกว่าแอปพลิเคชันแบบ Stand-alone สำหรับลูกค้า นักการตลาด และพนักงานขายที่ใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น Machine learning ที่สามารถตัดสินใจได้ในเสี้ยววินาทีว่าจะส่งโฆษณาตัวไหนให้ผู้ใช้งานนั้นถูกสร้างอยู่ในแพลตฟอร์มที่จัดการ และดูแลเกี่ยวกับการซื้อขายโฆษณาแบบครบวงจร รวมทั้ง Machine learning ที่อยู่ใน Netflix ได้นำเสนอวิดีโอ หรือซีรีส์ให้กับลูกค้าแต่ละคนมามากกว่า 10 ปี โดยที่การเลือกนำเสนอของ Netflix จะปรากฏในเมนูข้อเสนอที่ผู้ใช้งานเห็นเมื่อเข้าไปในแอปพลิเคชันของ Netflix ถ้าระบบในการแนะนำเป็นรูปแบบ Stand-alone ผู้ใช้งานก็จะต้องเข้าไปในอีกแอปพลิเคชัน และทำการรีเควสการให้คำแนะนำ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกกับผู้ใช้งาน

ผู้พัฒนาระบบ CRM เองต่างเพิ่มความสามารถด้าน Machine learning เข้าไปในระบบ ตัวอย่างเช่น Salesforce มีความสามารถในหลากหลายด้าน รวมถึงการใช้ AI ในการให้ทำ Lead scoring แบบอัตโนมัติ โดยจัดลำดับตามแนวโน้มลูกค้าที่มีโอกาสซื้อ




เพิ่มศักยภาพในการทำการตลาดยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI Marketing อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/